เรื่องเล่าขอเล่าเรื่องศิลปะของเด็กๆ ที่เลือกเอาธรรมชาติเป็นห้องเรียนใบใหญ่ ใช้บ้านเป็นฐานเรียนรู้ และมีกิจกรรมศิลปะเป็นสื่อถ่ายทอดประสบการณ์การรับรู้จากธรรมชาติโดยตรง ร่องรอยจึงสะท้อนผลจากการเรียนรู้ในมิติธรรมชาติที่ผสมผสานด้วยจินตนาการ
ความรู้สึกที่มีต่อความงามและสุนทรียภาพในบริบทแห่งสรรพชีวิต เป็นข้อมูลประสบการณ์ที่สำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจจากสรรพสิ่งในธรรมชาติ
นับตั้งแต่วัยเด็กแรกเริ่มถึงวัยก่อนเปลี่ยนผ่านเข้าสู่วัยรุ่นของเด็กชายสองคน ดล และแดน
ในช่วงวัย ๗-๑๑ ขวบ เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สามารถฝังรากลึก สำนึกรักษาสรรพสิ่งในระบบธรรมชาติที่เกื้อกูลสรรพชีวิตให้ดำรงอยู่ได้อย่างยั้งยืน จากการเริ่มต้นกันที่บ้านขยายผลการเรียนรู้ออกไปทุกหนแห่ง
ฝึกฝนปฏิบัติกันไปตามอัธยาศัย
เด็ก ผู้ใหญ่ และธรรมชาติ
ร่องรอย อันเกิดจากการถ่ายทอดส่งต่อกันระหว่างการรับรู้และมุมมองที่เหมือนและแตกต่าง
ระหว่างโลกธรรมชาติ โลกของเด็กและมุมมองของผู้ใหญ่ถูกเชื่อมต่อโดยสายใย พ่อ แม่และลูกกับวิถีชีวิตที่ใช้ร่วมกัน
ปรากฏการณ์การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นถือเป็นห้องปฎิบัติการเรียนรู้โดยครอบครัวที่น่าตื่นเต้น
เมื่อประสบการณ์ของเด็กๆได้หยั่งถึงความมหัศจรรย์ของสรรพชีวิต การถ่ายทอดร่องรอยที่เกิดจากการทาบซ้อน
ลอกเลียนและสื่อสารความคิดผ่านจินตนาการของกันและกันภายใต้เครือข่ายสายใยชีวิตของโลกธรรมชาติ
จึงถูกรวบรวบออกมาเป็นผลงานศิลปะควบกล้ำธรรมชาติ ในปี พ.ศ.๒๕๔๘
1.ผีเสื้อที่อยากรู้จัก ภาพชุดผีเสื้อที่ดลวาดด้วยสีน้ำมัน จากความประทับใจที่เคยเจอและไม่เคยเจอ บางตัวเคยพบเจอด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเช่น ตอนที่ปั่นจักรยานยามเช้าที่ทุ่งกระมัง แวะถ่ายรูปกับเถาวัลย์ริมทาง ได้พบเจอ ผีเสื้อหางยาวตาเคียว เกาะนิ่งอยู่บนกิ่งไม้โดยบังเอิญพอดี ส่วนอีกตัวผีเสื้อกลางคืนมอทแอตลาส เป็นมอทยักษ์ที่ใหญ่ที่สุด ดลกับแดนเคยเจอมาแล้วและชอบที่สุดตรงที่ได้ไปเก็บหนอนตัวโตกำลังกินใบกะท้อนเต็มต้นที่สวนอาตู่ แต่ผีเสื้อมอร์โฟสีน้ำเงินฟ้าสวยสดเป็นผีเสื้อที่ดลและแดนไฝ่ฝันอยากจะเห็นตัวจริงจากทวีปอเมริกากลางและใต้ ส่วนอีกตัวเป็นผีเสื้อสำคัญที่ดลและแดนไม่มีโอกาศได้เจอตัวเป็นๆแน่นอนเพราะ ผีเสื้อสมิงเชียงดาวมีรายงานว่าสูญพันธ์ไปแล้ว นอกนั้นก็จะวาดผีเสื้อที่เคยเพาะเลี้ยงและรู้จัก
2.แมลงปอและสัตว์เล็กน้ำจืด ภาพวาดจากประสบการณ์การสำรวจสิ่งมีชีวิตในน้ำ รวมทั้งกิจกรรมนักสืบสายน้ำ
ที่สร้างรอยประทับการจดจำทำความรู้จักโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตเล็กๆในน้ำผ่านแว่นขยาย สิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดมหัศจรรย์จึงถูกถ่ายทอดด้วยฝีแปรงสดๆที่ไร้สีสันของดล (Blind stroke วาดภาพด้วยน้ำกาวยาง rubber cement)พอกาวแห้งจึงลงสีทับรอจนสีแห้งอีกครั้งแล้วลอกกาวออก
ได้ภาพสัตว์ตัวเล็กๆในน้ำที่ปกติเราแทบมองไม่เห็น เช่น ตัวอ่อนแมลงปอ หนอนปลอกน้ำ แมลงเกาะหิน
ด้วงดิ่ง รวมทั้งวงจรชีวิตที่อยู่ร่วมกันของสัตว์เหล่านี้ ที่สำคัญการจำแนกชื่อจากการรู้จักทำให้รู้ว่าสัตว์แต่ละชนิดชี้วัดคุณภาพน้ำได้อย่างไร
3.ทุ่งกะมัง ครั้งที่ดลแดนเคยไปสัมผัสธรรมชาติที่ทุ่งกะมัง ความทรงจำของดลถูกถ่ายทอดบันทึกไว้บนผืนผ้าใบ
มีสัตว์ต่างๆเป็นตัวเล่าเรื่องประสบการณ์สำคัญ ตั้งแต่ผีเสื้อหางยาวตาเคียวตัวนั้น
ดงใส้เดือนตัวยาวที่เคยจับขึ้นมาเล่นเต็มมือไปหมด หิ่งห้อยในตอนกลางคืน ตัวอ่อนแมลปอ
ลูกยางปีกหมุนจากต้นยางสูง เม่นที่ดลเจอขนและเห็นตัวแว็บเดียว กิ่งกือทุ่งกะมังตัวสีแดง
และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือฝูงกวางที่ทุ่งกะมัง
4.นกเงือก ภาพวาดนกเงือกของดลในตอนที่ยังไม่รู้จักมากนัก เป็นแรงบันดาลใจให้ดั้นด้นไปรู้จักทีมวิจัยนกเงือกในเวลาต่อมา
5.สัตว์ของแดน พัฒนาการของแดนตามติดพี่ดลเสมอ เมื่อแรงบันดาลใจจากสิงสาราสัตว์ครุกรุ่นอยู่ในหัว
แดนขยับฝีแปรงแบบใช้กาวยางสีใสเขียนภาพดูบ้าง ละเลงสีทับสลับกันดำและทอง ความตื่นเต้นสุดๆ
เมื่อรูปทรงใหม่ค่อยๆปรากฏ ดูเหมือนว่าจะโผล่ออกมาจากใจภายในที่ตอบสนองความคิดของแดน![]() |
| ดลและแดนกับป้ายผ้าทำมือ นิทรรศการ ศิลปะควบกล้ำธรรมชาติ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๘ ที่ช่วยกันทำนำมาติดประชาสัมพันธ์ |
7.หกขา ภาพวาดของดลและแดนที่รวบรวมเอา หนอน แมลงเต่าทอง ผีเสื้อ และด้วง ที่มักวาดสะสมเอาไว้
![]() |
| บรรยากาศวันเปิดนิทรรศการ รองศาสตราจารย์ประภาภัทร นิยม กำลังชมผลงาน ณ.หอศิลปจามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
8.ความเงียบ ดลวาดตุ๊กแกตัวโต
จนล้นเฟรมพ่อเลยต้องต่อความยาวให้ เป็นความผิดพลาดที่ลงตัวพอดี ดลมักตามหาเจ้าของเสียงจนเจอตัว
มันมักสงบนิ่งท่ามกลางความเงียบทุกครั้ง

9.จำได้ ภาพวาดของดลและแดนจับคู่กัน แดนละเลงสีเป็นต้นไม้ใหญ่ นึกถึงตอนที่ต้องเดินเองและพ่ออุ้มพากันเข้าป่าไปดูต้นกร่างยักษ์ที่ภูเขียว ส่วนดลมีหมุดจดจำอยู่ที่ กวางและรอยเท้า ผีเสื้อ ใส้เดือนตัวยาว และขนเม่น เป็นความประทับใจ








ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น