ถอยหลังกลับมาตอนแรกเริ่มตอนที่เด็กๆกับศิลปะเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน
เมื่อได้เจอสีและพื้นที่ขนาดใหญ่โต และจะสนุกมากขึ้นไปอีกเมื่อได้มีประสบการณ์จากห้องเรียนธรรมชาติ
ผู้เอื้ออำนวยจึงให้ความสำคัญกับผลสำเร็จเมื่อความงดงามที่เกิดขึ้นมิใช่เพียงร่องรอยขีดเขี่ยไร้ความหมาย
ศิลปะควบกล้ำจึงเป็นที่มาของมุมมองที่จับเอาความงดงามที่สดใหม่ของเด็กแม้ดูเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเป็นธรรมชาติของเด็กๆ
ถูกนำมาต่อยอดในมุมมองของผู้ใหญ่ที่สอดประสานความหมายจากประสบการณ์เดียวกัน ผลงานศิลปะจากการทำงานร่วมกันระหว่างพ่อและลูกครั้งแรกถูกรวบรวมคัดสรรจัดแสดงเป็นนิทรรศการศิลปะควบกล้ำเป็นครั้งแรก
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๗
๑ "น้ำตกห้วยยาง" จ.ประจวบคีรีขันธ์ แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติแห่งแรกๆที่ดลรู้จัก ครั้งนั้นในวันที่ฝนพรำ
ดลใส่เสื้อกันฝนเดินย่ำฝ่าเม็ดฝน พ่อเดินจูงพาลัดเลาะขึ้นน้ำตก ผ่านแก่งหิน ก้อนโต
เป็นระยะๆ ท่ามกลางกระแสน้ำไหลหลากจากภูเขา ผ่านต้นยางต้นใหญ่ที่อาศัยพักพิงของเหล่าสรรพชีวิตน้อยใหญ่ที่ดลแวะไปทักทาย
รวมถึงกระสุนพระอินทร์ชีวิตแปลกใหม่คล้ายกิ้งกือแต่หดตัวเป็นเม็ดกลมกลิ้งได้ ดลกลับมาบ้านละเลงสีจากประสบการณ์ตรงพร้อมบรรยากาศภาพรอยประทับ
พ่อเห็น..ดลเห็น เป็นเช่นนั้นเอง เหล่าชีวิตที่คุ้ยเคยจึงถูกวาดเพิ่มเติมลงไปโดยพ่อ เราต่างเชี่อมโยงภาพประทับให้เห็นเป็นจริงขึ้นมาร่วมกัน
๒ “ฉลามใจดี” เรื่องราวจากใต้ท้องทะเลลึก ที่ปกคลุมด้วยความมืดมิด มีฉลามยักษ์ใหญ่ใจดีกินแต่แพลงตอน
พลัดหลงเข้าไปอยู่ท่ามกลางฝูงปลาทะเลลึกที่แปลกประหลาดชื่อ แองเกลอฟิช ติดโคมไฟส่องแสงไว้ล่อเหยื่อพวกปลาที่หลงแสงสี ดลถ่ายทอดจินตนาการ ผ่านสีสัน และเส้นโครงสร้างรูปทรงแบบฉับไว
ด้วยแรงบันดาลใจจากข้อมูลเรื่องราวใต้ท้องทะเลลึก ณ.แหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล
จ.ชลบุรี โดยเฉพาฉลามวาฬตัวโตยาวกว่ารถที่บ้านเสียอีก
ดลและแดนลองไปยืนเทียบและแตะสัมผัสตัวมาแล้วด้วย
๓. "ร่องรอยของแดน" ผลงานละเลง ขูดขีดและเขียน บนผืนผ้าใบชิ้นใหญ่ ของเด็กวัยสองขวบกว่าตามวัยพัฒนาการและประสบการณ์การรับรู้เท่าที่มีอยู่
เราพบว่าในร่องรอยที่ทับซ้อนมีความงดงามมหัศจรรย์ซ่อนอยู่มากมาย
๔. “สิ่งมีชีวิต” การรับรู้ที่ตอบสนองสัมผัสของดลและแดน ถูกตีความผ่านสิ่งเคลื่อนไหวที่มีชีวิต
สิ่งมีชีวิตของดลและแดน ในขณะที่มีโลกทัศน์ที่แตกต่างกันด้วยทักษะการควบคุมกล้ามเนื้อมือ
ร่องรอยที่เชื่อมโยงความรู้สึกในโลกใบเดียวกันจึงมีความแตกต่างกันหลากหลายจินตนาการ
ด้วยฝีแปรงบนพื้นสีที่ต่างคนต่างเลือกละเลงกันคนละเฟรม
๕. “ปลากระเบน” ดลติดใจอยู่ที่ ป.ปลา วนว่ายคล้ายกระพือปีก แถมรูปทรงประหลาดกว่าตัวอื่นเสียด้วย ดลจึงลงมือวาดปลากระเบนเคลื่อนไหวคล้ายนกยักษ์แห่งท้องทะเล
ตะหวัดทีแปรงฉวัดเฉวียน ส่วนมุมมองของพ่อมองผ่านทะลุจัดการวาดกระเบนใสใส่ท้องทะเล
๖.“ปลาผีเสื้อ” ผลงานการละเลงสีบนผ้าใบขนาดใหญ่ในชิ้นแรกๆ โดยประสบการณ์ของดล
การเขียนบนผ้าใบบนพื้นที่กว้างคงเหมือนท้องทะเลกว้างใหญ่ มากกว่าบนแผ่นกระดาษเล็ก ดลมีพื้นที่ให้วาดเล่นบนกระดาษฉากถ่ายรูปมาก่อน
การวาดภาพบนผืนผ้าใบจึงสนุกสนาน สด และดิบอย่างที่เห็น พ่อเลือกมองผ่าน รูปทรงสีใส ของปลา ผีเสื้อ แม้เป็นเพียงชื่อสามัญ แต่หารู้ไม่ว่า
ความสนใจของเด็กๆคืบคลานความสนใจโยงใยมาถึงผีเสื้อตัวจริงอีกหลากหลายชนิดในวัยต่อมาโดยวิธีการเดียวกันคือใช่กระบวนการศิลปะเป็นตัวถ่ายทอด
สำหรับเด็กๆ บนผืนผ้าใบที่กว้างใหญ่เปรียบเสมือน
พื้นที่เปิดกว้างสำหรับจินตนาการและอิสระภาพในการแสดงออกอย่างเต็มที่ สำคัญตรงที่จินตนาการเหล่านี้จะพรั่งพรูออกมาได้มากน้อยแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับข้อมูลและประสบการณ์ตรง ดลและแดน พรั่งพรูออกมาโดยไม่ขัดเขินคงเพราะ ประสบการณ์ตรงจากห้องเรียนธรรมชาติได้สร้างรอยประทับไว้มากมาย
ประกอบกับการไม่คาดหวังในเชิงทักษะทางศิลปะมากนัก แต่มุ่งเน้นไปที่การค้นพบคุณค่าในธรรมชาติของสรรพสิ่งแม้กระทั่งคุณค่าของความไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น