วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

หนอนของผีเสื้อยักษ์

   หนอนผีเสื้อกะท้อน ตัวโตกำลังกินใบกะท้อนที่ปลายยอดกิ่งเกือบหมด
อยากเล่าเรื่องราวความประทับใจของวัยเด็ก ตอนที่เกิดแรงบันดาลใจลุกขึ้นมาทำโน่นทำนี่อยู่เสมอ บางครั้งผู้ใหญ่มักเหมาเอาว่าเป็นการเล่นซนไปวันๆมองลึกลงไป การละเล่นทั้งหมดของเด็กสามารถนำพาไปสู่สิ่งสร้างสรรค์ได้เสมอ ผมมองเห็นวาระความสนใจของดลและแดนในแต่ละเรื่องมักเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ ถ้าหากเหล่าแรงบันดาลใจเหล่านั้นยังมิได้บรรลุสู่เป้าหมาย ความสนใจก็จะวนเวียนอยู่กับสิ่งเหล่านั้นจนกว่าจะได้ก้าวเคลื่อนคืบหน้าไป เมื่อได้มีประสบการณ์เรียนรู้สัมผัสเพียงพอต่อความต้องการแล้วจะค่อยๆเบนความสนใจให้กับสิ่งใหม่ๆเข้ามาแทนที่ ขึ้นอยู่กับว่ามีความต่อเนื่องและเชื่อมโยงกับประสบการณ์เก่าได้มากน้อยแค่ไหน

  ดลกำลังปีนกระไดขึ้นไปเก็บหนอนกะท้อนจากกิ่ง
แดนก็ปีนกระไดขึ้นไปคอยรับหนอนกะท้อนจากแม่หน่อยปีนอยู่ด้านหลัง
ผีเสื้อยักษ์
ในช่วงหนึ่งตอนเด็กของดลและแดนที่มีแต่หนอนและผีเสื้อ  ระยะนั้นมีผีเสื้อยักษ์หรือผีเสื้อแอตลาส(Attacus atlas) เป็นตัวชูโรง ด้วยเหตุที่มันเป็นผีเสื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยนับรวมทั้งผีเสื้อกลางวัน(butterfly)และผีเสื้อกลางคืน(Moth)ผีเสื้อแอตลาสก็คือผีเสื้อกะท้อนนั่นเอง มันแปลงกายมาจากหนอนที่กินใบกะท้อน เป็นผีเสื้อปีกลายสีน้ำตาลและขาว มีลวดลายสลับสีเข้มและอ่อน ตรงหนวดจะมีลักษณะเป็นขนนก ไม่เหมือนกับผีเสื้อกลางวัน ดลและแดน เคยเห็นผีเสื้อกลางวันมาหลายชนิด ที่ตัวใหญ่ที่สุดก็น่าจะเป็นผีเสื้อถุงทอง แต่สำหรับผีเสื้อแอตลาสยังไม่เคยเห็น มันใหญ่กว่าและมีขนาดถึง ๓๐ ซม.ตอนกางปีกออก นั่นคือมอทที่ใหญ่ที่สุด เวลาไปไหนมาไหนจึงมักมองหาต้นกะท้อน หาดูทุกครั้งที่ขี่จักรยานผ่านก็ไม่เคยเจอสักที จินตนาการของเด็กสองคนครุกรุ่นอยู่ในใจ  พ่อจึงคิดหาทางคลี่คลายถ่ายทอดจินตนาการออกมาให้เป็นรูปธรรมเสียบ้าง

   ผลงานผีเสื้อยักษ์จำลองที่ดลวาดและหัดเลื่อยไม้ลงสีโดยมีพ่อคอยช่วย
มาทำผีเสื้อยักษ์กัน
เราลองทำตัวหุ่นจำลองผีเสื้อแอตลาสด้วยไม้มาเล่นกัน  จำลองแบบลักษณะให้เหมือน....ให้ขยับปีกได้ด้วย พ่อเองพยายามนึกฝันไปตามลูกแล้วก็ชวนกันคิดทำสิ่งที่เป็นไปได้  ดลได้ดูศึกษาแบบปีกและลำตัวอย่างละเอียดแล้ววาดลงในกระดาษ แบ่งชิ้นส่วนเป็นปีกคู่บนและล่างโดยวาดภาพชุดปีกไว้ข้างเดียว แล้วพับกระดาษเขียนก็ออปี้คู่ปีกอีกข้างหนึ่ง ได้ปีกคู่เท่ากันแบบสมมารตรพอดี  จากนั้นลอกแบบลงบนไม้ฉลุ  ดลพยายามเลื่อยไม้ฉลุอย่างทุลักทุเลพ่อต้องคอยช่วยเหลือและประกอบเป็นตัวจนสำเร็จ ดลจึงจัดการทาสีเลียนแบบผีเสื้อแอตลาส และทำให้มันขยับปีกได้ด้วย พามันบินเวียนร่อนไปมาทุกหนแห่งในบ้าน โดยมีน้องแดนวิ่งตามผีเสื้อยักษ์ไปด้วยความระทึกใจ

ไปจับหนอนยักษ์
จินตนาการกับความจริงที่สัมผัสได้แตกต่างกันมาก การที่จะถลำลึกเข้าไในโลกธรรมชาตินั้นถ้ามีโอกาสและจังหวะ เรามักจะไม่มีการรีรอ คราวที่อาตู่โทรศัพท์มาบอกให้ไปดูหนอนตัวโตเต็มต้นกะท้อนในสวนที่นครชัยศรี เรายกเลิกสิ่งที่จะต้องทำในวันนั้นโดยไม่ต้องชั่งใจเราจะไปสวนอาตู่ที่นครชัยศรีกัน ไปดูหนอนตัวโต" เมื่อไปถึงสวนเห็นต้นกะท้อนหน้าบ้านที่เหลือใบอยู่หรอมแหรม  มีตัวหนอนสีเขียวอ่อนลำตัวประมาณกล้วยเล็บมือนาง ซึ่งถือว่าตัวใหญ่มากในบรรดาหนอนด้วยกัน  บนหลังมีหนามและประแป้งขาวบางๆ ทั้งตัว คลานเกาะอยู่ตามลำต้นเต็มไปหมด

แดนชูกิ่งกะท้อนที่มีหนอนกำลังกินอยู่หลายตัว
หนอนกะท้อนบางตัวขาวเหมือนประแป้งกำลังคืบคลานลงมาเพื่อจะไปกินต้นอื่นๆ

ดลแดนไม่รีรอ ลองจับหนอนใส่มือเหมือนชั่งน้ำหนัก  หนอนอีกหลายๆตัวกำลังไต่คืบลงจากต้นเพื่อไปกินต้นข้างเคียง  ดลเตรียมกล่องหนอนมาใส่สองกล่องใหญ่ ถึงอย่างนั้นก็เห็นท่าจะเล็กไปสำหรับหนอนรุ่นใหญ่แบบหนอนกะท้อน ดลกับแดนเก็บหนอนตามลำต้นข้างล่าง ส่วนแม่หน่อยใช้บันไดปีนป่ายเก็บตามกิ่งบนต้น  หนอนกะท้อนสองลังกระดาษกับสองกล่องหนอนทั้งหมดประมาณ 30 กว่าตัวจำนวนมากขนาดนี้ จึงตัดสินใจกันว่า จัดแบ่งเอาไว้เลี้ยงส่วนหนึ่ง และหนอนที่เหลือเอาไปให้"อาสุนันท์"ที่สวนผีเสื้อกรุงเทพฯดูแลโดยตรงจะดีกว่า ลำพังคงจะหาใบกะท้อนมาให้หนอนทั้งหมดกินไม่พอแน่ "อาสุนันท์"เตรียมพร้อมรอรับเจ้าหนอนด้วยต้นกระท้อนปลูกใส่กระถางใบโตอยู่สี่ต้น เด็กๆไปถึงก็รีบจัดการย้ายเจ้าหนอนเข้าสู่บ้านใหม่ทันที


  ดักแด้หนอนกะท้อน ที่ใช้ใยห่อหุ้มและมีใบกะท้อนแห้งห่อหุ้มอีกชั้น
อาสุนันท์บอกว่าที่มีทั้งหนอนตัวโตและตัวเล็กก็เพราะมันกินอาหารไม่เท่ากันและออกจากไข่เวลาไล่เลี่ยกัน  แต่ดูทีท่าว่าพวกหนอนจะกินไปอีกไม่นานแล้วก็จะเข้าดักแด้ ซึ่งจะเขาอยู่นานหลายเดือน ต้องรอคอยอย่างอดทน จนกว่าจะได้เห็นเป็นผีเสื้อแอตลาส  แต่ที่มหัศจรรย์สุดๆ ก็คือเมื่อบินออกไเป็นตัวผีเสื้อตัวเต็มวัยแล้ว มันจะไม่กินอาหารอีกเลย

          “แล้วมันเกิดมาทำไม?” ดลตั้งคำถาม

   ผีเสื้อยักษ์แอตลาส หรือผีเสื้อกะท้อน (Attacus atlas) บันทึกภาพได้ที่เขาใหญ่

ความรู้และเรื่องราวของผีเสื้อไม่ได้อยู่แค่ตัวหนังสือ แต่มันคือการยักย้ายถ่ายเทข้อมูลที่เด็กๆ สนใจไปสู่ประสบการณ์สำคัญตามครรลองที่จะดำเนินไปจากโลกจินตนาการไปสู่ความเป็นจริง และบางครั้งจากโลกความเป็นจริงกลับไปสู่โลกจินตนาการก็มี....



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น