วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

จากแมลงปอถึงเรื่องเล่า....

 ปลายสุดถนนพัฒนาการ ๖๕ ยังมีหมู่บ้านทิ้งรกร้าง สมัยที่ยังไม่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน

           หากท่านผู้อ่านบางท่านได้ติดตาม เรื่องเล่า...มาบ้างแล้ว คงจะเคยเห็นภาพประสบการณ์การเรียนรู้ที่บ้านของเด็กๆกับพ่อแม่  เริ่มตั้งแต่ความสนใจหนอนผีเสื้อของดลตอนวัย เจ็ดขวบ เริ่มต้นเรื่องที่ต้นส้มจี๊ดหน้าบ้านและพากันโยงใยไปถึงผีเสื้อหลากหลายชนิด "แมลงปอ"ก็เช่นกันเราเริ่มต้นความสนใจอยู่ตรงที่ทุ่งรกร้างหลังบ้านที่มีแหล่งน้ำขังเป็นตัวหล่อเลี้ยงสรรพชีวิตน้อยใหญ่ให้อยู่รอด เรามีโอกาศได้ไปเก็บเกี่ยวเรียนรู้กันทุกๆวัน ค่อยๆสะสมแรงบันดาลใจให้มีมากพอจนเกิดความต่อเนื่องและโยงใยความอยากรู้อยากเห็นให้ขยายขอบเขตออกไปไม่สิ้นสุดมาจนถึงตอนโต แม้จะกลับเข้าสู่ระบบไปโรงเรียนกันหมดแล้ว ก็ยังโหยหาเวลาอิสระกลับเข้าสู่โลกธรรมชาติในช่วงเวลาวันหยุดและปิดเทอมอยู่เสมอ

ดลกำลังปั่นจักรยานลัดเลาะมาถึงทางรถไฟและคูน้ำ


แมลงปอตอนเริ่มต้น
            จากเส้นทางปั่นจักรยานที่พ่อพาเด็กสองคนปั่นกันเป็นประจำ ไปจนสุดทางถนนของหมู่บ้านร้าง ลัดเลาะต้นมะขามเทศออกไปเจอทางรถไฟสายตะวันออก  สภาพแวดล้อมแถวนี้ ถึงแม้จะมีซากปรักหักพังจากการสร้างไม่เสร็จของโครงการบ้านจัดสรรที่ทิ้งเหลือไว้ประกอบทิวทัศน์  มีกองขยะประปรายตามสุดทางถนนคอนกรีต  แต่ก็ยังเป็นห้องเรียนธรรมชาติให้เด็กสองคนเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี  ตรงข้างทางรถไฟเลียบยาวไปสุดลูกหูลูกตานี้เอง มีคูน้ำวิ่งคู่ขนานไปเจอกับคลองเล็กๆข้างหน้าไกลออกไป มีกอต้นธูปขึ้นอยู่ในคูน้ำเป็นหย่อมๆ   เราค่อยๆปั่นลัดเลาะมาตามแนวทางเดินที่ไม่ค่อยมีคนผ่านสัญจรมากนัก นอกจากฝูงวัวที่ยังมีคนเลี้ยงอยู่แถวนี้ ไมยราพยักษ์จึงขึ้นรกชันทั้งสองข้างทางจนมาถึงบริเวณข้างทางรถไฟ  สังเกตเห็นคูน้ำถูกขุดลอกสูงขึ้นมาด้วยกองดินตลอดแนวแปลกตาไปจากเดิม  ดลเห็นแมลงปอบ้านบินวนเวียนตามแนวคูน้ำเลยแวะจอดลงสำรวจก่อนใคร ต้องค่อยๆไต่ลงไปริมคูน้ำ  ส่วนพ่อและแดนตามไปสมทบ
ดลลงสำรวจคูน้ำข้างทางรถไฟ แหล่งอาศัยสรรพชีวิตมากมาย
ไม่เฉพาะแค่ตัวอ่อน
แมลงปอ


            “พ่อแมลงปอ.....นี่อยู่นี่ไงดลตะโกนบอกพ่อพลางชี้มือไปที่ผิวน้ำตรงหน้า นับว่าเป็นภาพประทับสำคัญครั้งแรกสำหรับการทำความรู้จักแมลงปอเพราะไม่ห่างไปจากจุดนี้เราได้พบกับเปลือกลอกคราบของแมลงปอเกาะคาอยู่บนใบต้นธูปริมคูน้ำ ดลมักเจอแมลงปออยู่บ่อยๆตามริมบึงหลังบ้าน หรือแม้กระทั่งแถวแหล่งน้ำขังตามท้องถนนก็เคยเจอ ด้วยความสงสัยว่ามันชอบมาบินวนเวียนอยู่ทำไม ดลเฝ้าสังเกตุดูอยู่นานๆหลายหน แมลงปอจะบินเอาปลายหางจุ่มลงไปตามผิวน้ำเป็นจังหวะๆ มันจะหาแหล่งน้ำที่เหมาะสมสำหรับการวางไข่ แมลงปอวางไข่ในน้ำเป็นเรื่องราวที่เราค้นเจอ และที่น่าตื่นเต้นยิ่งไปกว่านั้นแมลงปอคือแมลงนักล่าหรือตัวห้ำนี่แหละ ตัวอ่อนแมลงปอจึงกินสัตว์เล็กในน้ำ พอบินได้มันสามารถไล่จับงับแมลงกินกลางอากาศ  ถ้าอยากเห็นแมลงปอให้ลองออกมาวิ่งเล่นนอกบ้านเจอแอ่งน้ำหรือตามริมบึงรับรองเจอบินวนเวียนอยู่แน่นอน โดยเฉพาะเวลาหลังฝนตกตามบริเวณแหล่งน้ำทุกหนแห่ง  สำคัญตรงที่ดลและแดนยังไม่เคยเห็นเหตุการณ์ตอนแมลงปอไล่งับแมลงกลางอากาศตามคำบอกเล่าเลยสักครั้ง

แมลงปอตัวสำคัญลอยกางปีกอยู่บนผิวน้ำ

 เปลือกตัวอ่อนแมลงปอที่ไต่ใบต้นธูปขึ้นมาลอกคราบเป็นแมลงปอตัวเต็มวัย

แต่ก็นับว่าเป็นต้นทุนในการทำความรู้จักแมลงปออย่างจริงจังในเวลาต่อมากับน้าเกรียงและเพื่อนๆ โดยเริ่มต้นจากเส้นทางเดิมๆและพื้นที่ที่คุ้นเคยคือทุ่งหลังบ้าน  ดลเคยทำตำแหน่งแผนที่บ้านของเราและละแวกแถวนั้นรวมถึงแหล่งน้ำสำคัญเอาไว้ เป็นเส้นทางปั่นจักรยานสำหรับพาเพื่อนไปสำรวจกัน  มาย้อนคิดดูหากพลาดโอกาสสำคัญนี้ไป เราเกือบจะไม่รู้เลยว่ามีวงจรชีวิตที่มหัศจรรย์อีกมากมายอาศัยอยู่ทุกหนแห่งในธรรมชาติ ผมถือว่าเป็นจังหวะและโอกาสที่ดีอีกครั้งหนึ่ง  สำหรับประสบการณ์การเรียนรู้ในห้องเรียนธรรมชาติของดลและแดน ถึงแม้ว่าความใผ่ฝันของเด็กสองคนนี้และผมไม่สามารถเป็นจริงได้เสียทั้งหมด

 ตัวอ่อนแมลงปอที่อาศัยอยู่ในน้ำเป็นนักล่าหากินสัตว์เล็กๆ
ดลกับแดนกำลังเขียนแผนที่เส้นทางจักรยานและจุดสำรวจที่พบเจอตัวอ่อนแมลงปอ
ตลกับคูน้ำข้างทางรถไฟสายตะวันออก

ท้ายสุดจากเรื่องเล่า
            เราเล่าเรื่องเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกและมุมมองของเด็กๆ  ที่ผ่านประสบการณ์ในธรรมชาติ  ซึ่งสำหรับเราแล้วถือเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ที่พ่อแม่อย่างเราเพิ่งจะมาเห็นคุณค่าของร่องรอยความคิดของเด็กๆที่ตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้ ได้สัมผัสกับศักยภาพในการถ่ายทอดและตอบสนองการเรียนรู้โดยธรรมชาติ ในมิติของธรรมชาติซึ่งต่อมาเรียกขานกันว่า ห้องเรียนธรรมชาติ และโดยเฉพาะได้เห็นเป็นการละเล่นเรียนรู้ ของเด็กๆ ผ่านกระบวนการศิลปะที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างน่าสนใจ การรวบรวมภาพบันทึกและเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรง อาจจะยังไม่ครบหมดกระบวน แต่ก็ได้ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุดที่ตรงนี้ ถือเป็นการตื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในชีวิต และด้วยความพยายามที่จะเรียงลำดับ ความฝัน และความจริง ให้ร้อยเรียงกันเป็นจังหวะที่คล้องจองกับสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่รอบตัวพร้อมๆไปกับลูกในช่วงชีวิตวัยเด็ก เป็นคำบอกเล่าที่ย้ำเตือนถึงการให้เวลาและคุณค่ากับสิ่งที่จะเข้ามาและผ่านเลยไปในชีวิต  มีกุญแจดอกสำคัญอยู่ตรงที่พลังและหัวใจที่จะสามารถเปิดประตูหน้าต่าง สู่โลกแห่งความเป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหน....แม้ว่าเราจะเคยจินตนาการไว้เช่นไรก็ตาม
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น