 |
ผีเสื้อหางติ่งหนอนมะนาว กำลังผึ่งปีกหลังจากเพิ่งออกมาจากดักแด้ |
ในช่วงวัยเด็กการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ในธรรมชาติจึงหมุนเปลี่ยนวนซ้ำเหมือนขดก้นหอยที่ขยายออกไปไม่สิ้นสุด
จะเลิกราก็ต่อเมื่อเด็กๆเปลี่ยนความสนใจไปสู่สิ่งใหม่ หนอนผีเสื้อที่ดลและแดนเริ่มสนใจนำมาเลี้ยงก็เช่นกัน
เมื่อต้นส้มจี๊ดหน้าบ้านมีนกกางเขนบินมาคอยเก็บกินหนอนอยู่บ่อยๆ ประตูต้นเรื่องจึงเปิดออกไปสู่โลกภายนอกที่กว้างใหญ่ ประสบการณ์ผีเสื้อของดลและแดนเป็นภาพย่นย่อที่ได้เห็นความเป็นไปของโลกธรรมชาติจากวงจรชีวิตของผีเสื้อ โดยเฉพาะช่วงเวลาสำคัญของการแปลงร่างจากหนอนเข้าสู่ดักแด้ หรือนาทีสำคัญตอนที่ผีเสื้อค่อยๆเยื้องกายออกจากดักแด้และเกาะผึ่งปีกรอเวลาก่อนจะโบยบิน ดลเคยเฝ้ารอดักแด้ผีเสื้อหางติ่งหนอนมะนาวที่ใต้เก้าอี้ม้านั่ง
จนได้เห็นนาทีสำคัญที่ประทับรอยเอาไว้ในตอนวัยเด็ก
 |
นาทีสำคัญของดลเมื่อผีเสื้อหางติ่งหนอนมะนาวเยื้องกรายออกจากดักแด้ |
 |
หนอนมะนาวพรางตัวเหมือนอึนกบนใบต้นส้มจี๊ด |
กลายเป็นหนอนแก้วตัวโต กินและอึตลอดวัน
 |
หนอนมะนาวโตเต็มที่กำลังจะเข้าดักแด้ |
 |
ดักแด้หนอนมะนาวเกาะห้อยตัวก่อนแปลงกายเป็นผีเสื้อหางติ่งหนอนมะนาว |
โลกของผีเสื้อจึงเต็มไปด้วยสีสันและมิติแห่งการเปลี่ยนแปลง ในวงจรชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างแบบสมบูรณ์ (Meta-
mophosis) ดลและแดนสามารถพบเจอได้แถวหลังบ้านระหว่างทางปั่นจักรยานซึ่งมีอยู่มากมายหลายชนิด
แต่ก็ยังมีผีเสื้อในฝันชนิดหายากหรือที่เชื่อกันว่าสูญพันธ์ไปแล้วเช่น ผีเสื้อสมิงเชียงดาว หรือผีเสื้อที่ตัวใหญ่ที่สุดเช่นผีเสื้อกะท้อน เป็นแรงบันดาลใจให้เราได้ดั้นด้นไปค้นหา
ความน่าตื่นตาตื่นใจและความหลากหลายของผีเสื้อจึงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเปิดโอกาศให้เด็กๆได้ลงพื้นที่สัมผัสโลกธรรมชาติได้มากขึ้น ได้ฝึกทักษะการมองที่ต้องรู้จักสังเกตทั้งรายละเอียดและภาพรวม
ไม่งั้นแล้วอาจไม่เจอหนอนผีเสื้อตัวเล็กๆหนอนผีเสื้อแต่ละชนิดกัดกินพืชอาหารแตกต่างกันตามแต่ละชนิดพันธ์
การได้รู้จักพืชพรรณไม้ชนิดต่างๆจึงเป็นของแถมสำคัญที่ได้รับไปด้วย....
 |
ดลและแดน ปั่นจักรยานสำรวจผีเสื้อข้างทาง |
 |
หนอนผีเสื้ิอใบรักลายเสือ(ลำตัวดำ) และใบรักธรรมดา ที่ดลแดนช่วยกันเลี้ยง |
 |
หนอนผีเสื้ิอใบรักกำลังกัดกินใบรัก |
 |
น้องแดนกับผีเสื้อหนอนใบรักธรรมดา |
 |
หนอนผีเสื้อกะทกรกกินใบกะทกรก |
 |
ดักแด้และตัวเต็มวัยของผีเสื้อหนอนกะทกรก |
 |
ผีเสื้อหนอนกะทกรกเพิ่งออกจากดักแด้ |
 |
หนอนกาฝากและหนอนกาฝากกำลังจะเข้าดักแด้ |
 |
ผีเสื้อหนอนกาฝาก |
ในตอนวัยเด็กของดลและแดน
จึงมีโอกาสทำความรู้จักพืชข้างทางกับแม่หน่อยไปด้วยเกือบทุกๆเช้า เราแวะดูต้นรักที่ใบโดนกัดกินพบเจอหนอนใบรักตัวเล็กจิ๋วซึ่งจะแปลงกายเป็นผีเสื้อหนอนใบรักธรรมดา ยิ่งปั่นไปไกลขึ้นเท่าไรข้างทางยิ่งรกชัณขึ้นเท่านั้น ได้พบกับไม้เลื้อยกะทกรกออกดอกสวยมีหนอนกะทกรกสีสดใสกัดกินใบอยู่เป็นกลุ่ม
ผีเสื้อหนอนกาฝากสีน้ำตาลส้มบินวนเวียนคอยวางไข่ไว้ตามใบกาฝาก พอโตเป็นหนอนได้อาศัยกัดกินใบเป็นอาหาร
เด็กสองคนจึงต้องคอยสังเกตุต้นกาฝากพืชเบียนที่คอยเติบโตแย่งดูดอาหารจากต้นไม้ใหญ่
ยังมีหนอนผีเสื้ออีกหลายๆชนิดที่ได้สำรวจจากห้องเรียนธรรมชาติและต่อยอดความสนใจเชื่อมโยงไปสู่เรื่องราวอื่นๆในเวลาต่อมา
 |
ลานผีเสื้อที่บ้านกร่างลำธารสอง |
 |
ดลท่ามกลางฝูงผีเสื้อที่บ้านกร่างแคมป์ อช.แก่งกระจาน |
เมื่อผีเสื้อขยับปีก
ณ.จุดสำรวจลำธารสอง บ้านกร่างแคมป์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ดลและแดนยืนอยู่ท่ามกลางผีเสื้อนานาชนิดจำนวนนับพันบินว่อนเกาะกลุ่มกันตามแอ่งน้ำและโป่งดินในช่วงเวลาหน้าร้อนที่มีสายน้ำเล็กๆเท่าที่เหลืออยู่
บนผืนป่าธรรมชาติมีผีเสื้อขยับปีก โฉบบินอย่างเงียบเชียบไร้สำเนียง มีความสงบจากธรรมชาติโอบล้อมไว้...โลก จักรวาลและเอกภพ กำลังเคลื่อนไป....
แต่อาจเป็นความกลัวสำหรับใครบางคน เมื่อผีเสื้อเคลื่ิอนไหวไร้เสียงโฉบไปมาเป็นผีเสื้อที่ไม่เคยทำความรู้จักมาก่อน
น้องอั๋นคือหนึ่งในนั้นที่กลัวผีเสื้อจนต้องอยู่ห่างๆเพราะกลัวว่ามันจะบินมาเกาะ ในครั้งที่น้าเกรียงและกลุ่มครอบครัวบ้านเรียนจัดกิจกรรมเรียนรู้สัมผัสธรรมชาติให้กับครอบครัวและเด็กๆ
ที่บ้านกร่างแคมป์ น้าเกรียงพาน้องอั๋นค่อยๆทำความรู้จักกับมด แมลง และพรรณพืชนานาชนิดตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติก่อนที่จะไปถึงจุดสุดท้าย
ณ.ลำธารสอง การทำความรู้จักผีเสื้อจำนวนนับพันในวันนั้น
กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้น้องอั๋นหายจากอาการโฟเบียผีเสื้อมาตั้งแต่ครั้งนั้น คงเพราะได้สัมผัสทำความรู้จักผีเสื้อในบรรยากาศที่ห้อมล้อมด้วยการเรียนรู้ที่เป็นธรรมชาติจากเพื่อนๆและคุณครูที่อบอุ่น
 |
อวัยวะพิเศษที่น้าเกรียงใช้นิ้วเขี่ยให้มันยื่นออกมา
|
ผีเสื้อขยับก้น
ในทางกลับกัน ดลมีอาการกลัวผีเสื้อเราสังเกตุเห็นได้เมื่อตอนที่ไปสำรวจถ่ายทำเรื่องแมลงกัน
ที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว เป็นช่วงเวลาที่ดลเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ดลมีอาการขยะแขยงกับผีเสื้อที่บินว่อนอยู่ตรงหน้า จนเพื่อนๆและน้าเกรียงต้องร้องทัก "พี่ดลกลัวผีเสื้ิอหรือ?" ทุกคนต่างประหลาดใจ ดลค่อยๆเรียบเรียงเล่าประสบการณ์สำคัญอย่างรวบรัดว่า
วันหนึ่งดลจับผีเสื้อมาเขี่ยก้นดูเพื่อจำแนกเพศ เขี่ยไปเขี่ยมามันยื่นแผ่ขยายอวัยวะพิเศษเป็นพู่สีเหลืองสองข้างออกมาที่ก้น
ทำให้ตกใจมากสบัดมือทิ้งไปโดยไม่รู้ว่ามันคืออะไรตั้งแต่นั้นมา....น้าเกรียงฟังจบถึงกับร้องอ๋อ...และอธิบายว่าผีเสื้อบางชนิดในวงศ์ขาหน้าพู่กลุ่มหนอนใบรัก
จะมีอวัยวะพิเศษไว้ปล่อยสารฟิลาโมนเพื่อป้องกันไล่ศัตรูและดึงดูดเพศตรงกันข้าม น้าเกรียงอธิบายพลางจับผีเสื้อจรกาที่บินวนเวียนอยู่แถวนั้นมาเขี่ยให้ดู
ทำให้ดลลดอาการกลัวผีเสื้อลงไปบ้างแต่ก็คงต้องทำความเข้าใจโลกธรรมชาติภายในตนเองให้มากขึ้น
โดยเฉพาะในสภาวะที่ความกลัว จินตนาการ และสิ่งที่เราไม่รู้จักได้มาเจอกัน
 |
ผลงานภาพวาดสีน้ำมันที่ดลวาดด้วยแรงบันดาลใจ จากผีเสื้อชนิดพันธ์ต่างๆ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น