ว่าด้วยปีกนางฟ้า
ปีกนางฟ้า ภาพจำหลักในเชิงสัญญะที่เก่าแก่มีที่มาซับซ้อนจากหลายแหล่งของเรื่องราวและความหมาย ภาพปรากฎของปีกนางฟ้าจึงมักถูกเคลื่อนย้ายอัตตลักษณ์ไปมาบนพรหมแดนมนุษย์ทั้งความย้อนแย้งและแปรปรวนต่อสวรรค์ นรกและโลก และเมื่อถูกทาบซ้อนให้เห็นบนชีวิตจริง ความแปรเปลี่ยนจากภาระกิจเดิมของปีกนางฟ้าจึงมักถูกนำมาใช้ในจินตนาการเฉพาะอยู่เสมอ ขณะเดียวกันมันก็ทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนสภาวะความจริงบางอย่างออกมาได้หลายมิติเช่นกัน
แกนสำคัญ ความหมายร่วมปีกนางฟ้า เทวดา หรือทูตสวรรค์ ความเป็นเทพ คือแกนหลักของพลังอำนาจเหนือมนุษย์ ที่พระเจ้าเนรมิตขึ้นมา จากตำนานกรีกโรมันและคัมภีร์ไบเบิลพันธสัญญาเดิมในคริสตศาสนา ตั้งแต่สมัยที่เราเชื่อว่าโลกแบนมีสวรรค์อยู่ข้างบน นรกอยู่ข้างล่าง โลกเราอยู่ตรงกลาง คติความเชื่อเรื่องพระเจ้าสูงสุดบนดินแดนสวรรค์อยู่ในคัมภีร์อีกหลายๆม้วนรวมถึงตำนานเรื่องเล่าแถบตะวันออกด้วยเช่นกัน ไม่เฉพาะแต่คริสตศาสนา ภาพจำหลักเทวดาต้องติดปีกเพราะอยู่บนสวรรค์ ไปๆมาๆบนโลก คอยปกป้องดูแลและส่งข่าวสารระหว่างมนุษย์และพระเจ้า กายแสงติดปีกในร่างเด็ก หญิงและชาย จึงพบเห็นอยู่ในงานศิลปะโบราณโดยเฉพาะบนจิตรกรรมและประติมากรรมชิ้นสำคัญตั้งแต่ยุคกรีก โรมัน เรอเนสซองค์ คลาสิค บาโร้ก กอธีค ข้ามภพมาถึง ป้อปคัลเจอร์ในโลกร่วมสมัยยุคปัจจุบัน
เหล่าทวยเทพ ทูตสวรรค์
ความซับซ้อนของเหล่าทวยเทพติดปีกบนความเชื่อตามคัมภีร์คริสตศาสนาโรมันคาทอลิคและโรมันออร์ทอดอกซ์ โครงสร้างชั้นปกครอง จัดขอบเขตภาระกิจที่พระเจ้ามอบหมายให้ จัดวางตำแหน่งหน้าที่ลำดับชั้นอยู่ 3 ชั้น แต่ละชั้นก็มีอีก 3 คณะ รวมแล้วมีลำดับชั้นถึง 9 ลำดับ ตั้งแต่ชั้นสูงสุด เซราฟิม เครูป และ โอฟานิม ลงไปถึงคณะอัครทูต(Archangel)ทั้งเจ็ด มีคาเอล กาเบรียล ราฟาเอล อูรีเอล ซารีเอล เรมีเอล ราเกล รวมถึง คณะทูตสวรรค์(Angel)ที่มีอีกจำนวนมากมาย แต่ละคนติดปีกในจำนวนที่แตกต่างกันไป และมีหน้าที่หลากหลาย คอยปกป้องดูแลมนุษย์ (จะไม่ขอลงรายละเอียดในความซับซ้อนและที่มาข้อมูลอันคลาดเคลื่อนและเหลื่อมซ้อนกันอีกมากมาย)ความแปรปรวนที่ร่วงหล่น
หมุดสำคัญคือเรื่องราวของอัครเทพทั้งเจ็ดมีซอกหลืบซับซ้อนสำคัญอยู่ เมื่อเดิมทีมีอัครเทพอยู่แปดองค์มิใช่เจ็ด อีกองค์หนึ่งคือ ลูซิเฟอร์ผู้ถูกสร้างจากแสงสว่าง ยิ่งใหญ่รองลงมาจากพระเจ้า เผชิญภาวะหลงในอำนาจและเหิมเกริมตน ก่อกบฎต่อพระเจ้า จึงถูกลงโทษให้ตกสวรรค์ (Fallen Angel) และกลายมาเป็น”ปิศาจ”ในที่สุด มีแง่มุมทับซ้อนตำนานหลักเข้าไปอีกหลายแง่มุม เมื่อ มิคาเอลหนึ่งในอัครเทพ ถูกมองว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ the fallen Angel เพราะเบื้องลึกของ มิคาเอลมีความอิจฉาลูซิเฟอร์ ที่พระเจ้าทรงโปรดปรานไว้ใจใช้งาน จึงกล่าวหาและใส่ร้ายลูซิเฟอร์ จนลูซิเฟอร์ถูกพระเจ้าตัดสินลงโทษ แต่เทวดาทั้งหลายที่เชื่อในความดีของ lucifer จึงได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและความจริง จึงเกิด มหาสงครามสวรรค์ครั้งยิ่งใหญ่ ระหว่างทูตสวรรค์ฝ่าย Lucifer กับอัครทูตที่นำทัพโดย มิคาเอล จนในที่สุดลูซิเฟอร์พ่ายแพ้ พระเจ้าลงโทษให้ตกจากสวรรค์รวมทั้งทูตสวรค์ทั้งหลายที่อยู่ฝ่าย Luciferด้วย ต่างต้องตกลงจากสวรรค์สู่นรกบาดาลและมีสภาพเป็น Demons ในที่สุด แต่บางความเชื่อก็ว่า ตอนที่ตกสวรรค์พระเจ้าจับโยนไปในสวนเอเดนเป็นซาตานลูซิเฟอร์ในร่างของงู ผู้ที่ล่อลวงให้เอวาและอาดัมแอบกินแอปเปิ้ลผลไม้ต้องห้ามส่งต่อบาปครั้งแรกให้มวลมนุษย์ แต่ในประเด็นนี้ตำนานชาวฮีบรูระบุว่า ซาตานกับ ลูซีเฟอร์ เป็นคนละคนกัน ยังไงก้อตามแต่ ลูซิเฟอร์กลายเป็นตัวแทนแห่งความบาป การล่อลวงและความหยิ่งผยองตั้งแต่นั้นมา มีบางตำนานที่ถูกลบออกจากคัมภีร์ เมื่อพระเจ้าสร้างลิลิธขึ้นมาเพื่อให้เป็นเมียคนแรกของอาดัม เทพีรูปงามที่กาลเวลาไม่สามารถสร้างรอยตำหนิให้แก่เธอได้ บางตำนานเล่าว่าเคยเป็นเมียลูซีเฟอร์แล้วตีจากไปอยู่กับอาดัม เพราะสำนึกได้ว่าพระเจ้าได้สร้างมาจากผงคลีดินพร้อมๆกับอาดัมให้มีความรักกันเพื่อสร้างเผ่าพันธ์มนุษย์ ลูซีเฟอร์โกรธอาดัมมากจึงใช้แสงสังหารอาดัมแต่ลิลิธเอาตัวปกป้องตายแทนอาดัมด้วยความรัก พระเจ้าจึงสร้างเอวาขึ้นมาใหม่จากกระดูกซี่โครงอาดัม ส่วนลูซีเฟอร์เสียใจมากและโกรธแค้นพระเจ้ายิ่งนัก จึงคอยพยายามล่อลวงมนุษย์ให้มาเป็นพวกตนเพื่อทำศึกสงครามกับสวรรค์อีกครั้ง เกี่ยวกับลิลิธที่เคลื่อนย้ายไปมาระหว่างปีศาจที่มีการยอมรับนับถือว่าเป็นเทพแห่งปีศาจ มีเรื่องเล่าทาบซ้อนอยู่บนคัมภีร์โบราณอีกมากมายอ่านแล้วเป็นงง จับต้นชนปลายไม่เจอจึงขอละไว้ แต่คงเหลือภาพจำหลักของลิลิธปีศาจสาวสวยงามยั่วยวนติดปีกขนนกสีดำเทาเผยโฉมพร้อมเนื้อหนังและเรือนร่างเสมอถึงตอนนี้ การปรากฏจากภาพซ้อนทับระหว่าง เทวดาตกสวรรค์ ซาตานและปีศาจล่อลวงจนถึงเทวทูต อาจหลอมรวมกันอยู่บนพรหมแดนสังคมมนุษย์โลก นัยยะภาพสะท้อนที่ฉาบตำนานเรื่องเล่าเอาไว้ ตราบใดที่ถูกปรากฏกายฉายภาพออกมา มักเกิดมุมสะท้อนในมิติเชิงลึกของสังคมที่มองเห็นความ แปรปรวน พร่าเลือน และเต็มไปด้วยสภาวะปัญหาวิกฤติที่ต้องเผชิญหน้าหาทางออก บนความเชื่อและความหวังกับอิสระภาพและสิ่งสูงสุดที่จับต้องได้หรือไม่ก็ตาม
ตอกย้ำผลพวง “Lucifer Effect”
ปีกนางฟ้า ระหว่างความเป็นมนุษย์และเหนือมนุษย์ มีทัศนคติซึมซับจากตำนานเรื่องเล่าจนถึงความเชื่อและศรัทธาพาไปถึงอุดมคติ ในมิติเหล่านั้นมีสภาวะผันแปร มีปัจจัยของสถานการณ์และพลวัตทางสังคมเป็นบริบทที่เฉพาะเจาะจงให้เกิดแรงกดดันทางจิตวิทยาที่สามารถงอกเงยความชั่วร้ายในตัวเรา เมล็ดพันธ์ที่ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตามเรามักจะพกพาแอบซ่อนไว้ภายในตัวเราเสมอ การข้ามเส้นไปมาระหว่างความดีและความชั่วที่มีเส้นมาตรฐานคุณธรรมกดทับเอาไว้อาจจะถูกปลดปล่อยในสถานการณ์จำเป็นหรือคับขันได้เสมอ ดังทุกๆวิกฤติการณ์ในสังคมปัจจุบัน"ความสามารถที่ไร้ขีดจำกัด ของจิตใจมนุษย์ที่จะทำให้เราทุกคนใจดีหรือโหดร้ายเห็นอกเห็นใจหรือเห็นแก่ตัวสร้างสรรค์หรือทำลายล้างและทำให้พวกเราบางคนกลายเป็นคนร้ายและคนอื่น ๆ เพื่อเป็นวีรบุรุษ". Phillip Zimbardo
เพราะเรา ต่างตกอยู่ในกระบวนการลดทอนความเป็นมนุษย์ หรือไม่ก็พอกพูนความเหนือมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้....
ภาคผนวก
หากการค้นคว้าหาคำความหมายและที่มาจากการอ่านข้อมูลทั่วไป เท่าที่บันทึกรอยเท้าระหัสตัวเลขในระบบเครือข่ายข้อมูลยักษ์มหึมา โดยไม่ต้องคัดกรองเฉพาะงานอ้างอิงต่อยอดจากผลงานวิจัยหรืองานค้นคว้าทางวิชาการ ขออนุมานเอาเองว่าก้อมาจากความจริงในระดับหนึ่งของการรับรู้ข้อมูลข่าวสารถึงแม้มีการบิดเบือน คลาดเคลื่อน หลงลืมและรวมถึงจินตนาการตามภูมิหลังของตนก้อตามเถอะ มันคือลมหายใจเข้าออกข้อมูลในบริบทของสังคมนั้นๆ ซึ่งผ่านอำเภอใจหรือที่เรียกว่าความโน้มเอียงทางทัศนคติของมนุษย์ชาติมิใช่หรือ?
ตั้งแต่มนุษย์สื่อสารเชิงภาษาได้ จากเรื่องเล่าพื้นบ้าน นิยายปรำปรา จนถึงเรื่องราวที่มาเทพปกรนัมทุกหนแห่งของแหล่งอารยะธรรม จนถึงคัมภีร์ศาสนาและ กฎหมายการปกครอง รัฐธรรมนูญที่ใช้ควบคุมระบบสังคมร่วมกัน ล้วนแล้วแต่ผ่านกระบวนการความโน้มเอียงทางทัศนคติมาแล้วทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าจะอยู่ในระดับละเอียดอ่อนซับซ้อนขั้นสูงสุดลูกหูลูกตาแค่ไหน
เฉกเช่นนี้ ประสบการณ์ของโลกคู่ขนาน ย่อมเป็นไปตามข้อมูลภูมิหลังรวมถึงประสบการณ์สัมผัสในเชิงมิติหลายๆระนาบแห่งการตีความด้วยเช่นกัน
![]() |
นายดอกมา๒๐๑๙
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น