ทุ่งรกร้างในช่วงหน้าหนาวยังคงความเขียวพอดี เห็นสุเหร่าบ้านม้าชุมชนดั้งเดิมและมีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์วิ่งลอยฟ้าอยู่บนทางรถไฟสายตะวันออก
บ้านของเราอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรเก่าแก่ พอที่จะมีพื้นที่สีเขียวให้ลูกเล็กๆ
ได้เริ่มเรียนรู้สัมผัสธรรมชาติได้จากที่นี่ ย้อนเวลาไปเมื่อประมาณสามสิบกว่าปีมาแล้ว
สองข้างทางบนถนนพัฒนาการยังเป็นทุ่งนาและเรือกสวน มีคูคลองเล็กๆพาดผ่านเชื่อมต่อกับคลองประเวศบุรีรมณ์
ซึ่งเป็นคลองหลักที่หล่อเลี้ยงพื้นที่สีเขียวเพื่อทำการเกษตรตามวิถีชุมชนมุสลิมดั้งเดิม
แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่จัดสรรสำหรับคนเมืองไปหมดแล้ว สำหรับดลและแดนยังโชคดีที่ยังได้สัมผัสธรรมชาติจากทุ่งรกร้างนี้่เพราะเป็นโครงการบ้านจัดสรรที่ล้มละลายจากพิษฟองสบู่เมื่อประมาณยี่สิบกว่าปีมาแล้ว ทุ่งรกร้างแห่งนี้จึงถูกเชื่อมต่อไว้ด้วยถนนคอนกรีตจากหมู่บ้าน เราสามารถปั่นจักรยานลัดเลาะทะลุไปถึงทางรถไฟสายตะวันออก
ซึ่งปัจจุบันมีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์วิ่งลอยฟ้าอยู่ข้างบนด้วย
ดลและแดนกับต้นฉำฉาคาคบผุ จุดนัดพบกลางทุ่งรกร้าง
หมุนเวียนเปลี่ยนฤดู
พื้นที่รกร้างจึงปกคลุมไปด้วยพืชคลุมดินไม้เลื้อยหลายชนิด ที่เด็กๆได้รู้จักมักคุ้น
เช่น มัยราพ กะทกรก สบู่เลือด ครอบจักรวาล มะก่องข้าวและต้นธูปฤาษี เพราะทุกเช้าเราจะเริ่มต้นเรียนรู้กับลูกกันที่นี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้เบื่อ
เมื่อฤดูหมุนเวียนเปลี่ยนกลับมาที่เดิม เด็กๆจึงสังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น
ต้นฉำฉาผลัดใบเขียวชะอุ่มในหน้าฝนค่อยๆโรยราร่วงหล่นในหน้าแล้งเหลือให้เห็นแต่คาคบต้นไม้แห้ง
ไม้เลื้อยนานาชนิดจึงแห้งแล้งตามไปด้วย จากพื้นที่ชุ่มน้ำในหน้าฝนจึงเต็มไปด้วยทุ่งต้นธูปแห้ง
ความหลากหลายของแมลงหลายชนิดที่เด็กๆเคยสำรวจลดน้อยลง จะเหลือไว้ให้เห็นก็ตรงที่คบไม้ผุหรือตอไม้แห้งซึ่งชุกชุมไปด้วยรังแตน
ดลเองเคยได้รับประสบการณ์จากการต่อยของแมลงไม่มีเหล็กไนชนิดนี้มาแล้ว ระบบนิเวศน์อันน้อยนิดของที่นี่ราวกับว่าจะหยุดนิ่งอยู่ตรงที่ช่วงเวลาที่แล้งสุด
ทุ่งหญ้าแห้งโล่งเตียนเปลี่ยนโทนเป็นสีน้ำตาลจากเศษซากพืชทับถมเป็นปุ๋ยดิน รอเวลาฝนตกลงมาอีกครั้งชุบชีวิตให้สีเขียวได้ผลิบานพร้อมจะเติบโตขยายพันธ์แบบโยงใยกันเป็นลูกโซ่ตั้งแต่พืชอาหาร
หนอน แมลง และนก รวมถึง จุลชีวิตอื่นๆ
"จุดนัดพบ"ภาพเพ้นท์ที่พ่อวาดจากภาพเสก็ตดลแดนและพ่อโดยดล ซึ่งมีทุ่งรกร้างและคาคบผุกับนกที่อยากเจอเป็นฉากของเหตุการณ์
นกกระจาบธรรมดาสานรังอย่างประณีต
นกจาบคาหัวเขียวบินมาพร้อมลมบนหน้าหนาวมักจะเห็นโฉบบินกินแมลงปอ
นกอีวาบตั๊กแตนส่งเสียง ปี๊-ปี๊-ปี๊ปี๊-ปี๊ๆๆๆๆ ไปไกลลั่นทุ่ง
นกกะติ้ดขี้หมูกำลังเก็บกินเมล็ดดอกหญ้า
นกกระจิบหญ้าสีเรียบ
"จุดนัดพบ" ภาพเพ้นท์ติ้งของดล ต้นไม้จุดนัดพบของนกนานาชนิด
จุดนัดพบ
กลางทุ่งโล่งมีต้นฉำฉาเป็นคาคบให้นกหลายชนิดมาเกาะโชว์ตัวให้เห็นจากระยะไกล
เป็นจุดนัดพบที่เราต่างคาดหวังว่าเช้านี้เราจะได้ทักทายกับนกชนิดใดบ้าง ไม่นับนกบ้านที่ทักทายกันเป็นประจำเช่น
นกเขา นกเอี้ยง นกปรอด นกอีแพรดและนกกระจอก ช่วงหน้าฝนจนถึงปลายฤดูจึงรู้กันว่านกกะยางจะคอยย่องจับปลา
ฝูงนกปากห่างบินลงขบเปลือกกินหอยเชอรี่ตามแอ่งน้ำก่อนที่จะแห้งผากลาหน้าฝนไป พอถึงต้นฤดูหนาวเสียงร้อง "แช้ก-แช้ก-แช้ก" จากนกอีเสือสีน้ำตาลเป็นสัญญาณบอกเวลาของลมหนาวพัดผ่านมาพร้อมนกจาบคาหัวเขียวที่บินว่อนร่อนวนส่งเสียงร้อง"ริริบ ริริบ".... บนท้องฟ้ากลางทุ่ง ดลและแดนจะสังเกตุเห็นนกอพยพผ่านมาที่นี่ตามเวลาของทุกปี
นอกจากนี้ยังมีนกกระจาบธรรมดาคอยสานรังด้วยเส้นใบต้นธูป และกระจิบหญ้าสีเรียบสานรังเป็นถุงห้อยอยู่ท่ามกลางดงต้นธูปก่อนหน้าฝนตกชุก
นกหลายชนิดบินผ่านมาเกาะพักสังเกตุการณ์ธรรมชาติที่ต้นนี้
ดลในบังไพรหน้าต้นไม้จุดนัดพบก่อนที่จะเจอฝูงวัว
ฝูงวัวที่เดินผ่านมาพบกับบังไพรสีเขียวดูแปลกตาจึงทักทายเสียหน่อย
ฝูงวัวที่เดินผ่านมาพบกับบังไพรสีเขียวดูแปลกตาจึงทักทายเสียหน่อย
เมื่อวัวล้อมตอนดูนก
ดลเคยชวนพ่อไปทำบังไพรเพื่อเฝ้าดูนกอย่างไกล้ชิด เราออกไปเฝ้ากันแต่เช้ามืดก่อนนกมา
เช้าวันนั้นดลยังไม่ทันเจอนกแต่กลับต้องตื่นเต้นตกใจเมื่อรอบๆบังไพรถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงวัวของบังหวัง
วัวบางตัวยื่นจมูกเข้ามาดมๆอยู่นานแล้วจึงค่อยๆแยกย้ายจากออกไปกินหญ้าตามท้องทุ่ง นี่อาจเป็นปมประทับอีกรอยหนึ่งที่ทำให้ดลรู้สึกเข็ดขยาดไม่อยากเข้าใกล้ฝูงวัวตัวโตตั้งแต่นั้นมา
จนน้าเกรียงชักเอะใจเมื่อถึงคราวชวนดลไปเฝ้าดูฝูงกระทิงที่เขาแผงม้า ทำให้เราได้เรียนรู้ว่ามีจุดพลิกผันที่เกิดขึ้นได้จากห้องเรียนธรรมชาติด้วยเช่นกัน
ลานเสาเข็มร่องรอยโครงการจัดสรรพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับคนเมือง
รังแตนมีอยู่ทั่วไปตามคบไม้ผุที่เด็กๆต้องระมัดระวัง
"บังหวัง" นักเลี้ยงวัวมืออาชีพ
ทุ่งหญ้าก่อนหน้าแล้ง ดลแดนชวนเพื่อนมาสำรวจมด
นกกะเต็นอกขาวติดตะข่ายดักนกเขาของคนใจร้ายดลแดนช่วยกันตัดตะข่ายแต่ช่วยไม่ทัน
นกปากห่างมองหาหอยเชอรี่ตามแอ่งน้ำ
ฝูงนกกะยางสีขาวปลอด
ชมภาพเพิ่มเติมจากท้องทุ่งพัฒนาการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น