โพรงรังนกกก บนต้นไม้สูงใหญ่ จากมุมมองระยะใกล |
ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เมื่อถึงวันที่ ๑๔ จะมีผู้คนให้ความสำคัญกับความรักกันทั่วโลก
เป็นวาระในการแสดงความรักให้กันและกัน ซึ่งมีที่มาจากการระลึกถึงคุณความดี ความกล้าหาญและการเสียสละเพื่อความรักของนักบุญวาเลนไทน์
ผู้ซึ่งไม่ยอมเชื่อฟังจักรพรรดิ"คลอดิอุสที่ ๒"แห่งกรุงโรม ที่ออกกฏห้ามมิให้มีการแต่งงานเนื่องจากต้องการชายชาติทหารไปสร้างกองทัพให้แข็งแกร่งยิ่งใหญ่ในสมัยนั้น
จึงถูกลงโทษประหารตัดคอ เสียชีวิตลงในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ค.ศ.๒๗๐ ตั้งแต่นั้นมาวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์จึงถูกจัดให้มีไว้เตือนเราให้รู้จักมอบ
ความรัก ความเสียสละและมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ให้กันและกัน ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ ความหมายและความเข้าใจต่อความรัก
จะมีวิวัฒนาการและถูกตีความเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ความรักก็ยังทำให้คนเรามีความอ่อนโยนและกล้าหาญพอที่จะให้โดยมิได้หวังสิ่งตอบแทน เป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตทีถูกฝังไว้ในเส้นทางที่วิวัฒนาการมาร่วมกัน หากขยับมุมมองมาที่ประสบการณ์ศึกษาธรรมชาติกับเด็กๆ
การได้สังเกตุปรากฏการณ์กับสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์นานาชนิดที่พบเจอ พฤติกรรมบางอย่างอาจตีความได้ว่าเป็นสัญชาติญาณการอยู่รอดของชีวิต
แต่บางอย่างก็สามารถมองเห็นและรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนในพฤติกรรมสัมผัสซึ่งทำหน้าที่ตามระบบธรรมชาติ
อันจะเห็นได้ชัดจากพฤติกรรมนกเงือก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในบทบาทนักปลูกป่า และตัวแทนบ่งชี้ป่าสมบูรณ์ที่เด็กๆชาวควบกลำ้ธรรมชาติได้ทำความรู้จักกันมาเป็นอย่างดี
![]() |
ภาพเพ้นท์ติ้งนกกกโดยดลและแดน |
วันรักนกเงือก
โดยทั่วไปหากนกเงือกได้จับคู่อยู่ด้วยกันแล้ว ก็จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต
พ่อแม่นกจะช่วยกันเลี้ยงลูก ตัวผู้คอยปกป้องดูแลตัวเมียและลูกน้อยในโพรงรังบนต้นไม้ใหญ่
ตลอดจนคอยหาอาหารมาป้อนลูกจนโตพอที่จะออกจากรังอย่างปลอดภัย นกเงือกจึงเป็นตัวแทนแห่งความรักที่ยั่งยืนและการให้ที่เสียสละอย่างแท้จริง
มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก จึงกำหนดให้ทุกวันที่
13 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันรักนกเงือกในประเทศไทย ก่อนที่จะถึงวันแห่งความรักหนึ่งวัน
โดยที่มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือกจะจัดให้มีกิจกรรม รณรงค์งานอนุรักษ์นกเงือก ณ.คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประจำทุกปี
พ่อนกกกกำลังคาบผลลูกไทรย้อยสีแดงส้ม |
เฝ้าดูนกกก
จากประสบการณ์ตรงที่จดจำได้ดี เมื่อครั้งกลุ่มครอบครัวควบกล้ำฯได้มีโอกาศไปเฝ้าดูศึกษาพฤติกรรมนกกก(นกเงือกขนาดใหญ่) ในพื้นที่วิจัยของมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก
ณ.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ "แม่นกกกเข้าไปอยู่ในโพรง ๕-๑๐ วัน มันจะไข่ หลังจากไข่ประมาณ ๔๕-๕๐ วัน ไข่จะฟัก เมื่อไข่ฟักตัวเมียคือแม่จะอยู่กับลูกในโพรงอีกหนึ่งเดือน
ถึงตอนนี้แม่นกกกจะจิกปากโพรงออกมาช่วยพ่อหาอาหารไปเลี้ยงลูก ลูกนกกกปิดปากโพรงขังตัวอยู่ข้างในอีกหนึ่งเดือน" คือคำบอกเล่าจากอาอ็อด (พิทยา ช่วยเหลือ) หนึ่งในทีมวิจัยนกเงือก ก่อนที่จะพาเราไปเฝ้าสังเกตุการณ์บันทึกพฤติกรรมนกกกหน้าโพรงรัง พ่อนกกกต้องทำงานหนักอยู่ถึงสามเดือนจากการบินหาอาหารมาป้อนให้แม่และลูก
และอีกหนึ่งเดือนที่พ่อแม่ช่วยกันหาอาหารมาเลี้ยงลูก รวมเวลาที่พ่อแม่นกกกให้การฟูมฟักลูกนกอยู่นานถึง
๔ เดือน
แม่หน่อยนั่งหลับ แม่จิ๋มกับจิโร่ และแม่อิงอ่านหนังสือ |
แดนนอนรอคอยกับเคนอ่านการ์ตูนไปพลางๆ |
แม่อิง แม่กั้ง จิโร่และเคน....แม่จิ๋ม แม่หน่อยและเคน
....ธาม พ่อแม็ก และอาอ็อด เข้าไปอยู่ในซุ้มบังไพรอย่างเงียบเชียบเรียบร้อยก่อนหกโมงเช้า
เราเริ่มเฝ้าสังเกตุบันทึกข้อมูลการป้อนอาหารของพ่อนกเงือก ตั้งแต่เวลาการป้อนลำดับครั้งในการป้อน
และชนิดของอาหาร ต้องสังเกตุให้แน่ชัดว่าเป็นสัตว์หรือลูกไม้ชนิดใด แม่ๆหลายคนช่วยกันส่องกล้องสองตาและจดบันทึก
แม่กั้งสรุปผลบันทึกเท่าที่สังเกตุได้จากการบินมาป้อนหนึ่งครั้งแรก ลูกไทรป้อนครั้งละ
๒ ลูก ถึง ๕๓ ครั้ง ครั้งละ ๒ ลูกรวมแล้วไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ลูก มีลูกยางโอนลูกดำๆป้อนให้ ๒ ครั้ง มีหนอนกับแมลงอีก ๙ แถมด้วย
ไข่อีก ๒ ฟองซึ่งเดายากว่าจะเป็นไข่ของใคร
![]() |
ไทรย้อย |
![]() |
ตาเสือเหลือง |
"นกจะป้อนเยอะตอนตั้งแต่เช้าประมาณตีห้าถึงแปดโมง พอสายๆถึงบ่ายสองจะค่อยๆลดน้อยลง" อาอ็อดบอกเล่าข้อมูลระหว่างที่นั่งรอรอบต่อไปของการบินมาป้อนอีกครั้ง
ในการหาอาหารทั้งลูกไม้ป่า โปรตีนสัตว์และการบิน เฉลี่ยแล้วครั้งละประมาณ ๒๐ นาทีถึงครึ่งชั่วโมง
จากการสังเกตุการณ์อยู่ไม่ต่ำกว่า ๒ ชั่วโมง เราเฝ้ารอคอยและภาวนาให้พ่อนกหาอาหารมาพอเพียงต่อการเติบโตช่วงสุดท้ายก่อนที่จะออกบินสู่โลกอันกว้างใหญ่
สังเกตได้ว่าแม่นกกกออกจากโพรงรังมาแล้วเพราะได้เห็นนกกกทั้งพ่อและแม่ อยู่เคียงคู่
ไม่ห่างกัน
*ภาพวาดอาหารของนกเงือกโดยแม่หน่อย
ภาระกิจอันน่าทึ่งเหล่านี้ เราไม่อาจสัมผัสรับรู้ได้หากไม่ได้ตามไปดูสืบค้นหาด้วยตาตัวเอง
ในมุมมองส่วนตัวก็เชื่อว่ามันมีบางสิ่งที่มากกว่าวิวัฒนาการของสัญชาติญาณเพื่อการอยู่รอด
นกเงือกอาจจะไม่รู้จักนิยามแห่งความรัก แต่ภาระกิจของพ่อแม่นกเงือกนั้นกระทำคุณให้ไม่เฉพาะแค่ส่งต่อชีวิตและเผ่าพันธ์นกเงือก
มันเป็นการโอบอุ้ม ดูแลและเยียวยา โลกทั้งใบไว้ด้วยความรักที่ไม่เคยหวังผลตอบแทน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น