วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

จุดเริ่มต้นที่แคมป์บ้านกร่าง

ดลกับกล่องหนอนตอนเช้าตรู่

          บ้านกร่างแค้มป์เป็นจุดพักกางเต้นท์ สำหรับผู้ที่ต้องการมาสัมผัสธรรมชาติ ณ.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารแม่น้ำเพชรบุรีเหนือเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ด้วยสภาพป่าสมบูรณ์เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าที่ยังพบเห็นกันบ้างอาทิเช่น เลียงผา วัวแดง กระทิง ช้างป่าและแม้กระทั่งเสือ เป็นแหล่งดูนก ผีเสื้อและแมลงนานาชนิดที่สำคัญ ที่นักสำรวจธรรมชาติไม่ควรพลาด คือข้อมูลขั้นแรกที่พาให้เกิดแรงบันดาลใจไปท่องเที่ยวแบบสำรวจธรรมชาติกัน ด้วยระยะทางจากกรุงเทพถึงอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานประมาณ 200 กม.และต่อไปถึงแคมป์บ้านกร่างอีก 35 กม.ใช้เวลาเดินทางรวมแล้วประมาณครึ่งวัน เป็นระยะทางที่พอเหมาะสำหรับครอบครัวพ่อแม่ลูกสี่คนพากันมาท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์

หน้าเต้นท์ยามค่ำคืน

กบทูดที่ดลพบเจอขุดโพรงอยู่ข้างเต้นท์
 นกแก้ก นกเงือกที่บินวนเวียนมาโชว์ตัว  

พี่ชายกับพี่แม็กพร้อมหนังสือคู่มือดูนกและผีเสื้อ ดล แม่หน่อยและแดน
เที่ยวธรรมชาติครั้งแรก
          ต้องขอย้อนเวลากลับไปไกลตอนที่ลูกชายสองคน ดลอายุ ๖ ขวบและแดนอายุ ๓ ขวบ เป็นวัยเริ่มแรกของการเรียนรู้ และสำหรับพ่อแม่ก็อาจต้องจะเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่ในบางสิ่งเหมือนกัน โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่ไมใช่เฉพาะแค่ลูกสองคนเท่านั้น แรกเริ่มที่เราหันกลับมาสนใจเรียนรู้ธรรมชาติรอบตัวก็เพราะความเข้าใจในโลกธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอนาคต เราออกเดินทางตั้งแต่เช้ามาถึงศูนย์ที่ทำการอุทยาน แวะติดต่อเช็คอินข้อมูลแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติที่นี้ก่อนเป็นอย่างแรก โอกาศดีที่ได้เจอกับพี่แม็คนักนำทางรุ่นเยาว์ที่อาสาพาเราเดินศึกษาธรรมชาติที่บ้านกร่างกันในวันรุ่งขึ้น (พี่แม็กลูกชายลุงเหวียนเจ้าหน้าที่อุทยานที่ได้รับการฝึกหัดอบรมการสื่อสารนำทางธรรมชาติ ทั้งเรื่องดูนกและผีเสื้อ) เมื่อนัดแนะกันเรียบร้อย กว่าเราจะมาถึงแค้มป์บ้านกร่างก็เย็นพอดี ที่ลานกลางเต้นท์เต็มไปด้วยเต้นท์หลากสีที่นักท่องเที่ยวจองพื้นที่ไว้หมดแล้ว  เราแทบจะถอยหลังกลับเพราะผู้คนมากมายในวันหยุดแออัดกันเต็มไปหมด แต่ก็โชคดีอีกครั้งที่ได้พบกับลุงเหวียนช่วยจัดการขอแทรกพื้นที่กางเต้นท์ข้างสนามและยืนยันว่าไม่เป็นไรเพราะส่วนใหญ่เค้าจะไม่เข้าป่ากันและพรุ่งนี้ก็จะทยอยกลับ ด้วยความตื่นเต้นตั้งแต่ได้ฟังคำบอกเล่าบรรยายสรุปจากพี่แม็กซึ่งคาดว่าจะได้พบเจอสิ่งมหัศจรรย์ที่บ้านกร่างจนดลและแดนอ้าปากค้างไปเลย เพราะเรามีเป้าหมายสำคัญในวันรุ่งขึ้นรอคอยอยู่ จึงรีบช่วยกันจัดการกางเต้นท์ทำกับข้าวให้เสร็จทันก่อนจะค่ำมืด  จนถึงดึกดื่นคืนนั้นแม้จะมีเสียงร้องรำทำเพลงคลอไปกับเสียงธรรมชาติจากเต้นท์รอบๆ เด็กสองคนก็หลับสนิทด้วยอากาศที่เย็นสบายจนถึงเช้ามืดลุกขึ้นตื่นก่อนใครๆ

 ลูกอ็อดยักษ์เกือบเท่าฝ่ามือดล มีแดนดูอยู่ข้างๆ

ดลกำลังจับลูกอ็อดในน้ำ
ลูกอ็อดยักษ์กับนกเงือก
          ผมลองไล่เรียงลำดับประสบการณ์เรียนรู้ธรรมชาติของดลและแดน มักพบว่าในการทำความรู้จักสิ่งมีชีวิตในแต่ละประสบการณ์มีจังหวะเวลาที่ถูกจัดเรียงไว้ให้เชื่อมโยงกันโดยตัวมันเอง ดลกับแดนตื่นแต่เช้าออกมาเดินดูพื้นที่รอบๆ สังเกตุเห็นหัวกบตัวโตตาแป๋วโผล่หัวออกมาจากโพรงดินข้างเต้นท์ ซึ่งดูแล้วไม่ใช่คางคกหรืออึ่งอ่างแน่ คาความสงสัยไว้จนมาได้คำตอบเมื่อตอนเดินลุยน้ำที่จุดลำธารสอง (จุดดูผีเสื้อที่มีถนนตัดผ่าน สามารถเดินตามลำห้วยไปโผล่ที่จุดลำธารหนึ่ง) พบเห็นฝูงลูกอ็อดว่ายน้ำแข่งกับปลา ดลลองจับขึ้นมาดูด้วยความตื่นเต้นมันเป็นลูกอ้อดยักษ์ยาวเกือบเท่าฝ่ามือ ทำให้ดลนึกเชื่อมโยงกลับไปที่กบข้างเต้นท์ จนสุดท้ายได้คำตอบจากพี่แม็กคือลูกอ้อดกบทูดอาศัยอยู่ตามลำห้วยซึ่งไหลลงไปถึงด้านหลังของแค้มป์บ้านกร่างด้วย หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยก่อนถึงเวลาหมายนัดกับพี่แม็ก ดลจัดการเตรียมกล่องหนอน เพื่อเดินสำรวจดูหนอนผีเสื้อแถวๆนั้น จุดสำคัญที่เราลืมคุยกันก่อนคือเรื่องของกฏระเบียบการอนุรักษ์ในเขตอุทยานแห่งชาติ  คงไม่เหมือนกับที่หมู่บ้านผาสุกนึกอยากเก็บหนอนมาเลี้ยงที่บ้านก็ได้ตามสะดวก ณ.เวลานั้น ดลทำความเข้าใจได้ไม่ง่ายนักแต่ก็ตกลงกันได้โดยเพียงแค่ขอเก็บมาดูศึกษา ก่อนจะกลับก็ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ระหว่างเดินดูหาหนอนผีเสื้ิอไปรอบๆ บังเอิญมีนกเงือกบินวนเวียนมาเกาะอยู่ตามกิ่งต้นไม้แห้ง พยายามโชว์ตัวให้เห็นกันชัดๆในครั้งแรก เป็นการประทับรอยสำคัญให้ไว้กับเด็กสองคนตั้งแต่นั้น หารู้มั้ยว่าจะได้มีโอกาศรู้จักนกเงือกอย่างจริงจังในเวลาต่อมา

 ฝูงผีเสื้อที่ จุดลำธาร ๒
แมลงปอเข็มน้ำตกเขียว
 ไต่เชือกลงเนิน แดน ดลและแม่หน่อย

แมลงปอเข็มผสมพันธ์ที่ลำห้วย จุดลำธาร ๒
แมงย่องแย่งที่บ้านกร่าง

หมุดสำคัญสู่ประสบการณ์ใหม่
          พี่แม็กนำทางเราข้ามลำห้วยด้านหลังของลานกลางเต้นท์ เดินลัดเลาะขึ้นเนินสูงชันเข้าสู่เส้นทางศึกษาธรรมชาติในระยะสั้น ไปถึงทางออกที่จุดตัดริมถนนและเดินต่อไปจนถึงจุดลำธารสอง แหล่งผีเสื้อที่เต็มไปด้วยสีสันนานาชนิดต่างมารุมตอมริมลำห้วยและโขดหิน พี่แม็กจำแนกชื่อผีเสื้อชนิดต่างด้วยหนังสือคู่มือผีเสื้อของน้าเกรียง จากนั้นจึงพาเดินลุยน้ำไปตามลำห้วยที่มีสองฝั่งปกคลุมไปด้วยร่มไม้ใหญ่ ระหว่างทางพบข้างแว่นถิ่นใต้ที่พี่แม็กเล่าว่ามันชอบเกาะกระโดดข้ามหัวเราไปมาและฉี่ใส่ด้วยต้องระวัง โชคดีที่เราไม่เจอเหตุการณ์นี้ในวันนั้น จากลำห้วยที่บ้านกร่างจึงมีสิ่งมีชีวิตตัวสำคัญในครั้งแรกแปลงกายเป็นตัวละครซ่อนหาไปกับเด็กๆในทุกพื้นที่ธรรมชาติ เป็นอีกกระบวนหนึ่งที่จะทำความรู้จักธรรมชาติได้มากขึ้นด้วยตัวเอง  เราพบว่าแมลงย่องแย่งไม่ใช่แมงมุมจากที่พบในครั้งแรกไปจนถึงที่ลำห้วยโกรกอีดก  เราได้รู้จักแมลงปอน้ำตกเขียวเจ้าตัวที่ทำให้เรารู้ได้ว่ามีแหล่งน้ำสะอาดอยู่ เราไม่ได้เจอแค่แมลงปอเข็มที่เกาะเกี่ยวผสมพันธ์กัน แต่ได้เห็นมันวางไข่และมีตัวอ่อนเป็นนักล่าอยู่ในน้ำ เรามิได้รู้จักเรื่องราวทั้งหมดเหล่านี้จากประสบการณ์ครั้งแรก แต่มันได้รับการขยายผลจากจุดเริ่มต้นที่แค้มป์บ้านกร่าง และยังวนเวียนกลับมาเรียนรู้ธรรมชาติกันที่นี่อยู่เป็นประจำ เพราะธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่ ซับซ้อนและละเอียดอ่อนไม่รู้จบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น