 |
ดลกับกล่องหนอนตอนเช้าตรู่ |
บ้านกร่างแค้มป์เป็นจุดพักกางเต้นท์ สำหรับผู้ที่ต้องการมาสัมผัสธรรมชาติ
ณ.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
พื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารแม่น้ำเพชรบุรีเหนือเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ด้วยสภาพป่าสมบูรณ์เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าที่ยังพบเห็นกันบ้างอาทิเช่น
เลียงผา วัวแดง กระทิง ช้างป่าและแม้กระทั่งเสือ เป็นแหล่งดูนก ผีเสื้อและแมลงนานาชนิดที่สำคัญ
ที่นักสำรวจธรรมชาติไม่ควรพลาด คือข้อมูลขั้นแรกที่พาให้เกิดแรงบันดาลใจไปท่องเที่ยวแบบสำรวจธรรมชาติกัน
ด้วยระยะทางจากกรุงเทพถึงอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานประมาณ
200 กม.และต่อไปถึงแคมป์บ้านกร่างอีก
35 กม.ใช้เวลาเดินทางรวมแล้วประมาณครึ่งวัน เป็นระยะทางที่พอเหมาะสำหรับครอบครัวพ่อแม่ลูกสี่คนพากันมาท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์
 |
หน้าเต้นท์ยามค่ำคืน |
 |
กบทูดที่ดลพบเจอขุดโพรงอยู่ข้างเต้นท์ |
 |
นกแก้ก นกเงือกที่บินวนเวียนมาโชว์ตัว |
 |
พี่ชายกับพี่แม็กพร้อมหนังสือคู่มือดูนกและผีเสื้อ
ดล แม่หน่อยและแดน
|
เที่ยวธรรมชาติครั้งแรก
ต้องขอย้อนเวลากลับไปไกลตอนที่ลูกชายสองคน ดลอายุ ๖ ขวบและแดนอายุ
๓ ขวบ เป็นวัยเริ่มแรกของการเรียนรู้ และสำหรับพ่อแม่ก็อาจต้องจะเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่ในบางสิ่งเหมือนกัน
โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่ไมใช่เฉพาะแค่ลูกสองคนเท่านั้น แรกเริ่มที่เราหันกลับมาสนใจเรียนรู้ธรรมชาติรอบตัวก็เพราะความเข้าใจในโลกธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอนาคต
เราออกเดินทางตั้งแต่เช้ามาถึงศูนย์ที่ทำการอุทยาน แวะติดต่อเช็คอินข้อมูลแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติที่นี้ก่อนเป็นอย่างแรก
โอกาศดีที่ได้เจอกับพี่แม็คนักนำทางรุ่นเยาว์ที่อาสาพาเราเดินศึกษาธรรมชาติที่บ้านกร่างกันในวันรุ่งขึ้น (พี่แม็กลูกชายลุงเหวียนเจ้าหน้าที่อุทยานที่ได้รับการฝึกหัดอบรมการสื่อสารนำทางธรรมชาติ
ทั้งเรื่องดูนกและผีเสื้อ) เมื่อนัดแนะกันเรียบร้อย กว่าเราจะมาถึงแค้มป์บ้านกร่างก็เย็นพอดี
ที่ลานกลางเต้นท์เต็มไปด้วยเต้นท์หลากสีที่นักท่องเที่ยวจองพื้นที่ไว้หมดแล้ว เราแทบจะถอยหลังกลับเพราะผู้คนมากมายในวันหยุดแออัดกันเต็มไปหมด
แต่ก็โชคดีอีกครั้งที่ได้พบกับลุงเหวียนช่วยจัดการขอแทรกพื้นที่กางเต้นท์ข้างสนามและยืนยันว่าไม่เป็นไรเพราะส่วนใหญ่เค้าจะไม่เข้าป่ากันและพรุ่งนี้ก็จะทยอยกลับ
ด้วยความตื่นเต้นตั้งแต่ได้ฟังคำบอกเล่าบรรยายสรุปจากพี่แม็กซึ่งคาดว่าจะได้พบเจอสิ่งมหัศจรรย์ที่บ้านกร่างจนดลและแดนอ้าปากค้างไปเลย
เพราะเรามีเป้าหมายสำคัญในวันรุ่งขึ้นรอคอยอยู่ จึงรีบช่วยกันจัดการกางเต้นท์ทำกับข้าวให้เสร็จทันก่อนจะค่ำมืด จนถึงดึกดื่นคืนนั้นแม้จะมีเสียงร้องรำทำเพลงคลอไปกับเสียงธรรมชาติจากเต้นท์รอบๆ
เด็กสองคนก็หลับสนิทด้วยอากาศที่เย็นสบายจนถึงเช้ามืดลุกขึ้นตื่นก่อนใครๆ
 |
ลูกอ็อดยักษ์เกือบเท่าฝ่ามือดล มีแดนดูอยู่ข้างๆ |
 |
ดลกำลังจับลูกอ็อดในน้ำ |
ลูกอ็อดยักษ์กับนกเงือก
ผมลองไล่เรียงลำดับประสบการณ์เรียนรู้ธรรมชาติของดลและแดน มักพบว่าในการทำความรู้จักสิ่งมีชีวิตในแต่ละประสบการณ์มีจังหวะเวลาที่ถูกจัดเรียงไว้ให้เชื่อมโยงกันโดยตัวมันเอง ดลกับแดนตื่นแต่เช้าออกมาเดินดูพื้นที่รอบๆ สังเกตุเห็นหัวกบตัวโตตาแป๋วโผล่หัวออกมาจากโพรงดินข้างเต้นท์
ซึ่งดูแล้วไม่ใช่คางคกหรืออึ่งอ่างแน่ คาความสงสัยไว้จนมาได้คำตอบเมื่อตอนเดินลุยน้ำที่จุดลำธารสอง (จุดดูผีเสื้อที่มีถนนตัดผ่าน สามารถเดินตามลำห้วยไปโผล่ที่จุดลำธารหนึ่ง) พบเห็นฝูงลูกอ็อดว่ายน้ำแข่งกับปลา
ดลลองจับขึ้นมาดูด้วยความตื่นเต้นมันเป็นลูกอ้อดยักษ์ยาวเกือบเท่าฝ่ามือ ทำให้ดลนึกเชื่อมโยงกลับไปที่กบข้างเต้นท์
จนสุดท้ายได้คำตอบจากพี่แม็กคือลูกอ้อดกบทูดอาศัยอยู่ตามลำห้วยซึ่งไหลลงไปถึงด้านหลังของแค้มป์บ้านกร่างด้วย
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยก่อนถึงเวลาหมายนัดกับพี่แม็ก ดลจัดการเตรียมกล่องหนอน เพื่อเดินสำรวจดูหนอนผีเสื้อแถวๆนั้น
จุดสำคัญที่เราลืมคุยกันก่อนคือเรื่องของกฏระเบียบการอนุรักษ์ในเขตอุทยานแห่งชาติ คงไม่เหมือนกับที่หมู่บ้านผาสุกนึกอยากเก็บหนอนมาเลี้ยงที่บ้านก็ได้ตามสะดวก
ณ.เวลานั้น ดลทำความเข้าใจได้ไม่ง่ายนักแต่ก็ตกลงกันได้โดยเพียงแค่ขอเก็บมาดูศึกษา
ก่อนจะกลับก็ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ระหว่างเดินดูหาหนอนผีเสื้ิอไปรอบๆ บังเอิญมีนกเงือกบินวนเวียนมาเกาะอยู่ตามกิ่งต้นไม้แห้ง
พยายามโชว์ตัวให้เห็นกันชัดๆในครั้งแรก เป็นการประทับรอยสำคัญให้ไว้กับเด็กสองคนตั้งแต่นั้น
หารู้มั้ยว่าจะได้มีโอกาศรู้จักนกเงือกอย่างจริงจังในเวลาต่อมา
 |
ฝูงผีเสื้อที่ จุดลำธาร ๒ |
 |
แมลงปอเข็มน้ำตกเขียว |
 |
ไต่เชือกลงเนิน แดน ดลและแม่หน่อย |
 แมลงปอเข็มผสมพันธ์ที่ลำห้วย จุดลำธาร ๒ |
 |
แมงย่องแย่งที่บ้านกร่าง |
หมุดสำคัญสู่ประสบการณ์ใหม่
พี่แม็กนำทางเราข้ามลำห้วยด้านหลังของลานกลางเต้นท์
เดินลัดเลาะขึ้นเนินสูงชันเข้าสู่เส้นทางศึกษาธรรมชาติในระยะสั้น ไปถึงทางออกที่จุดตัดริมถนนและเดินต่อไปจนถึงจุดลำธารสอง
แหล่งผีเสื้อที่เต็มไปด้วยสีสันนานาชนิดต่างมารุมตอมริมลำห้วยและโขดหิน พี่แม็กจำแนกชื่อผีเสื้อชนิดต่างด้วยหนังสือคู่มือผีเสื้อของน้าเกรียง
จากนั้นจึงพาเดินลุยน้ำไปตามลำห้วยที่มีสองฝั่งปกคลุมไปด้วยร่มไม้ใหญ่ ระหว่างทางพบข้างแว่นถิ่นใต้ที่พี่แม็กเล่าว่ามันชอบเกาะกระโดดข้ามหัวเราไปมาและฉี่ใส่ด้วยต้องระวัง
โชคดีที่เราไม่เจอเหตุการณ์นี้ในวันนั้น จากลำห้วยที่บ้านกร่างจึงมีสิ่งมีชีวิตตัวสำคัญในครั้งแรกแปลงกายเป็นตัวละครซ่อนหาไปกับเด็กๆในทุกพื้นที่ธรรมชาติ เป็นอีกกระบวนหนึ่งที่จะทำความรู้จักธรรมชาติได้มากขึ้นด้วยตัวเอง เราพบว่าแมลงย่องแย่งไม่ใช่แมงมุมจากที่พบในครั้งแรกไปจนถึงที่ลำห้วยโกรกอีดก เราได้รู้จักแมลงปอน้ำตกเขียวเจ้าตัวที่ทำให้เรารู้ได้ว่ามีแหล่งน้ำสะอาดอยู่
เราไม่ได้เจอแค่แมลงปอเข็มที่เกาะเกี่ยวผสมพันธ์กัน แต่ได้เห็นมันวางไข่และมีตัวอ่อนเป็นนักล่าอยู่ในน้ำ
เรามิได้รู้จักเรื่องราวทั้งหมดเหล่านี้จากประสบการณ์ครั้งแรก แต่มันได้รับการขยายผลจากจุดเริ่มต้นที่แค้มป์บ้านกร่าง
และยังวนเวียนกลับมาเรียนรู้ธรรมชาติกันที่นี่อยู่เป็นประจำ เพราะธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่
ซับซ้อนและละเอียดอ่อนไม่รู้จบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น