ปั่นจักรยานประสบการณ์สำคัญของวัยเด็ก กลุ่มครอบครัวควบกล้ำฯถือเป็นอีกหนึ่งภาระกิจสำคัญ
หากได้มารวมกลุ่มเรียนรู้ร่วมกันเมื่อไหร่ มักต้องปิดท้ายด้วยการขี่จักรยานสำรวจหลังบ้านเป็นประจำเป็นการฝึกทักษะการปั่นร่วมกันทั้งครอบครัว ด้วยวัยเด็กที่ต่างกัน จักรยานจึงมีตั้งแต่คันเล็กของน้องอ่อนสุดและของพี่คันย่อมไปจนถึงคันโตของพ่อแม่
แต่ละคนผ่านการหัดขี่จักรยานมาแตกต่างกันตามสไตล์การเรียนรู้ของแต่ละครอบครัว สะท้อนให้เห็นบางแง่มุมของบ้านเรียนแต่ละบ้านที่มีความเป็นเฉพาะตัวแตกต่างกัน
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น การได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ยากเข็ญเหน็ดเหนื่อยจากกิจกรรมการปั่นจักรยานร่วมกัน
ทำให้เห็นถึงคุณค่าความสำคัญและประโยชน์ของจักรยานโดยตรง เกิดเป็นแรงบันดาลใจร่วมกันในกิจกรรมละเล่นเรียนรู้จากห้องเรียนธรรมชาติ
ความสุขติดล้อ
จำได้ว่าน้องแดนมักจะได้รับบทเรียนจากการปั่นมากกว่าคนอื่นเป็นเพราะทักษะจักรยานคันเล็กที่ยังต้องติดล้อเล็กประคองตัว
ในขณะที่พี่ๆปั่นสองล้อไปได้ไกลๆถึงหลังบ้านแล้ว ครั้งที่แดนถอดล้อข้างออก พี่ๆช่วยกันประคองวิ่งตอนออกตัว
แดนปั่นตามออกไปได้อย่างสนุกสนาน แต่พอถึงคราวกลับเข้าจอด น้องแดนไม่รู้ว่าจะหยุดจอดยังไงดีจึงชะลอความเร็วและตัดสินใจพุ่งเข้าชนฟุตบาทให้รถหยุดล้มลงแต่ก็ลุกขึ้นมาบอกพี่ๆว่า "ไม่เจ็บๆ"...นี่เป็นวิธีจอดรถของแดนในตอนแรกๆที่เรียกเสียงฮา จนกระทั่งแดนปั่นสองล้อได้แข็งแรงขึ้น จึงปั่นตามพี่ๆไปหลังบ้านระหว่างทางผ่านแอ่งน้ำขัง
หันมาอีกทีน้องแดนล้มกองอยู่กับผืนน้ำเปียกปอนไปทั้งตัว เพราะความลื่นของถนน เส้นทางปั่นลัดเลาะไปทุ่งหลังบ้านเป็นระยะทางไปกลับถึง ๔ กม.เป็นเส้นทางที่เด็กและพ่อแม่ได้ฝึกทักษะและวินัยในการปั่นให้คล่องแคล้วเท่าเทียมกัน
เราได้ใช้เวลากันที่นี่อยู่พักใหญ่จนถึงวาระเปลี่ยนจักรยานคันใหม่ตามขนาดให้เหมาะสมกับความสูงที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
บนถนนนักปั่น
เป็นความโชคดีที่เส้นทางจักรยานจากทุ่งหลังบ้านถูกต่อเชื่อมด้วยสะพานปูนเรียบคลองบ้านม้าข้ามทางรถไฟสายตะวันออกสู่ถนนลูกรังใต้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ก่อนที่จะเชื่อมเข้าสู่ถนนทางเรียบคู่ขนานมอร์เตอร์เวย์ เส้นทางสำหรับนักปั่นด้วยระยะวนรอบไปกลับประมาณ ๒๐ กิโลเมตร มีช่วงขึ้นเนินสะพานยาวอยู่สองช่วงนักปั่นทางเรียบมักนิยมมาฝึกซ้อม นับว่าเป็นเส้นทางที่ต้องใช้ทักษะในการปั่นมากพอควรสำหรับเด็กๆและคุณแม่
ระหว่างทางมีวัดลานบุญเป็นจุดพักเล่น มีฝูงปลาสวายเป็นขวัญใจของเด็กๆ เป็นประสบการณ์ดีๆที่ได้ฝึกฝนผ่านทั้งความเหน็ดเหนื่อย
ความอดทนและสติตื่นตัวบนถนนที่มีรถยนตร์ผ่านไปมาค่อนข้างน้อย(แต่มักใช้ความเร็วสูง) จนถึงจุดสิ้นสุดที่ทุกคนสัมผัสได้ถึงความสุขที่หลั่งออกมาหลังความเหน็ดเหนื่อย
โดยเฉพาะพ่อแม่ที่ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะผ่านพ้นมาได้อย่างปลอดภัย เราเริ่มสะสมทักษะด้วยการขนขึ้นรถและข้ามเรือไปปั่น ทำให้ได้สัมผัสถึงรายละเอียด เก็บความทรงจำดีๆ จากหลายพื้นที่ในเวลาต่อมา
กรุงเทพฯสีเขียว
๑ ม.ค. ๕๓ คือร่องรอยเวลาบันทึกโปสการ์ดของเด็กๆเมื่อประมาณ ๔ ปีที่แล้ว
หลังจากที่เราฝันปั่นไปไกลๆกันมาแล้ว เกิดแรงบันดาลใจอยากให้ กทม.เป็นเมืองปั่นที่ใช้รถน้อยลง มีต้นไม้ร่มรื่นขึ้น
วันขึ้นปีใหม่เป็นวันดีที่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมปั่นในเมืองเพราะรถน้อย จึงชักชวนกันไปตั้งต้นชมเมืองใหญ่ที่สวนลุมพินี
พื้นที่สีเขียวอันน้อยนิดใจกลางเมือง ปั่นไปบันทึกวาดภาพโปสการ์ดตามจุดสำคัญที่แออัดตั้งแต่
สามย่าน สยาม มาบุญครอง สีลมและสาธร เพื่อสังเกตุการณ์พื้นสีเขียว ไบค์เลน ทางเท้า
แผงรอย
ตุ๊กๆ แท็กซี่ รถเมล์และควันรถ เก็บไว้เป็นอีกหนึ่งชุดประสบการณ์ปั่น
ภาพวาดบันทึกโปสการ์ดถูกติดตั้งบนรถพ่วงบนแผงโชว์ ปั่นไปบนท้องถนนและจอดพักตามจุดวาดภาพไปด้วย
เด็กๆจะต้องรักษาขบวนด้วยความเร็วที่เกาะกลุ่มกันและระมัดระวังการขับขี่ให้มากขึ้นอีกเท่าตัวและไม่ลืมทักษะการตัดสินใจเวลากระชั้นชิด
มีเสียงแตรดังบีบไล่หลังในขณะที่คุณแม่กำลังปั่นไปกับลูกๆ ด้วยความคิดกังวลอยู่ลึกๆ
ความฝันจากวันนั้นจะเป็นจริงได้มากน้อยเพียงไร ไม่มีใครคาดหวังมากนัก เว้นเสียแต่การเริ่มลงมือทำ
ปั่นไกล้ไกล ไปให้ถึง
จนถึงวันนี้มีนักปั่นอยูบนท้องถนนเพิ่มมากขึ้น
มีร้านบริการจักรยานที่หลากหลาย มีโครงการรณรงค์ที่คึกคัก มีโครงการณ์"ปันปั่น"จากกทม..ให้ทดลองใช้ถึง
๕๐ สถานี มีวันคาร์ฟรีเดย์ที่แสดงพลังปั่นอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่แล้วข่าวอุบัติเหตุบนท้องถนนจากเพื่อนนักปั่นทั้งเก่าและใหม่ก็ยังคงมีอยู่เป็นระยะๆ
โดยส่วนตัวต้องยอมรับว่าการปั่นจักรยานบนท้องถนนยังคงเป็นเรื่องที่ต้องผจญภัยกันอยู่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่
ตราบใดที่ทัศนคติในการใช้ถนนยังมองเห็นจักรยานเป็นแค่ล้อเลื่อนที่เกะกะบนท้องถนน ไม่รับรู้ถึงสิทธิจักรยานบนท้องถนนที่ต้องใช้ร่วมกัน
"ไบค์เลน" จึงเป็นได้แค่ร่องรอยเชิงสัญญลักษณ์ทับซ้อนอยู่บนท้องถนน
โชคยังดีที่มีนักผจญภัยอีกมากมายกระโดดลงมาใช้สิทธิจักรยานบนท้องถนนร่วมกัน ช่วยสร้างสรรค์เมืองกรุงเทพฯให้น่าอยู่มากขึ้นกว่าเดิม..ในอนาคตอันใกล้นี้