ภาพสวยงามของพื้นที่สีเขียวที่เราต่างคิดฝันเอาไว้อาจบิดเบือนความเป็นจริงบางอย่างไป
จากสนามหญ้าหน้าโรงเรียนที่ห้ามเดินตัดผ่าน สวนสาธารณะที่แสนจะร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่และสวนดอกไม้
ไปจนถึงสนามกอล์ฟเนินกรีนเขียวสุดลูกหูลูกตา ต่างได้รับการตัดตกแต่งดูแลให้เรียบร้อยไม่รกรุงรังปราศจากพรรณพืชบางชนิดที่เรียกว่าวัชชะพืช
เพราะดันไปขึ้นอยู่ผิดที่ผิดทางที่ไม่เป็นประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ และไม่อำนวยประโยชน์ต่อวิถีชีวิตสมัยใหม่
วัชชะพืชจึงมักจะถูกกำจัดเพราะเห็นเป็นโทษมากกว่าเป็นคุณ มายาคติพื้นที่สีเขียวจึงยังคงอยู่คู่กับคนเมืองเสมอมา
พื้นที่สีเขียวตามธรรมชาติที่ไม่มีใครไปรบกวนจึงดูรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งให้รกร้าง ทั้งๆที่เป็นแหล่งฟื้นฟูระบบนิเวศน์เล็กๆให้สรรพชีวิตกลับคืนมาได้
ทุกชีวิตล้วนเกื้อกูล
ไม่มีผลกำไรใดหรือประโยชน์สูงสุดแบบไหนที่จะถูกตักตวงได้จากธรรมชาติเพียงฝ่ายเดียว
ประเด็นสำคัญในห้องเรียนธรรมชาติที่เราพยายามโยงใยให้เห็นความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกันเสมอ
ความเข้าใจต่อโลกธรรมชาติจึงเป็นฐานสำคัญในการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันและหวังให้ซึมซับเก็บไว้ในใจของเด็กๆ
วัยเด็กของดลและแดนจึงได้มีโอกาสเรียนรู้เพื่อสัมผัสธรรมชาติ มากกว่าการจดท่องจำข้อมูลความรู้ที่ซับซ้อนอีกมากมาย
แต่มักจะเป็นกิจกรรมลงมือทำและสังเกตการณ์จากประสบการณ์ตรงที่เพลิดเพลิน
เก็บความสุขข้างทางไว้
ในตอนเช้าของบางวัน ดลและแดนชวนแม่หน่อยให้พากันปั่นจักรยานไปเก็บกระทกรก
ไม้เลื้อยข้างทางหลังบ้านเพื่อเป็นพืชอาหารสำหรับหนอนผีเสื้อกะทกรกที่ดลเลี้ยงไว้ แม่หน่อยได้จังหวะถือเป็นโอกาสดีๆ พาลูกสองคนไปเก็บพรรณไม้ข้างทางอีกหลายชนิด
นำกลับมาวาดรูปศึกษาและทำความรู้จักให้มากขึ้น เพราะเธอชอบเก็บดอกไม้ข้างทางและถนัดที่จะวาดภาพบันทึกไว้ ทำให้การรู้จักพรรณไม้และดอกไม้นานาชนิดของเธอถูกเก็บสะสมความรู้มาโดยไม่รู้ตัว
แล้วเมื่อถึงเวลาที่คุณแม่จะนำประโยชน์มาใช้กับลูกๆ ก็คราวนี้เอง
แม่หน่อยและดล ลงมือศึกษาวาดพร้อมกัน จากการสังเกตลักษณะรูปทรงของใบ
กลีบ ดอก เส้นใบ และรายละเอียดที่ต่างกันของแต่ละชนิด บางชนิดกินได้ รักษาโรค และใช้ปรุงอาหาร
ในขณะที่แดนยังเล็กอยู่ คอยนั่งดูและฟังเรื่องราวอย่างใจจดใจจ่อรอดูภาพวาดจะออกมาเป็นยังไง กะทกรก มะก่องข้าว พันงูเขียว ไมยราพยักษ์ สร้อยฟ้า ลูกใต้ใบ หญ้าหมอน้อย
และอื่นๆอีกมากมาย ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ซึ่งต้องสืบค้นจากผู้รู้และจากตำรากันต่อไป
ณ.พื้นที่สีเขียว
พืชพรรณไม้ข้างทางรวมถึงพื้นที่รกร้างหลังบ้าน เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนผ่านฤดูกาล
ตอนเข้าหน้าฝนความเขียวชอุ่มของพืชไม้เลื้อยเริ่มบุกเบิกคลุมหน้าดินช่วยไม้พุ่มให้ได้เติบโตแตกปลายยอดอ่อน
ออกดอกให้กำเนิดเมล็ดพันธ์หลากหลายชนิด ห่วงโซ่อาหารเริ่มต้นที่นี่
เป็นถิ่นอาศัยและแหล่งอาหารให้กับชีวิตเล็กๆ เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติในเมืองใหญ่และเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ
เกิดการเรียนรู้ เคลื่อนไปตามธรรมชาติ มีสายสัมพันธ์ที่โยงใยระบบนิเวศน์เล็กๆของที่นี่เป็นตัวดำเนินเรื่อง
วัชชะพืชข้างทางจึงมีบทบาทสำคัญไม่เฉพาะต่อระบบนิเวศน์ แต่น่าจะเป็นต้นแบบพื้นที่สีเขียวที่ควรจะมีไว้ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติในเมืองใหญ่
โดยกันพื้นที่ในสวนสาธารณะไว้สำหรับสวนป่าเพื่อศึกษา ธรรมชาติ
มันเป็นเพียงความคิดฝันที่คาดหวังถึงเด็กทุกคนที่ควรจะได้รับประสบการณ์สีเขียวที่น่าประทับใจฝังลึกติดตัวตลอดไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น