นับตั้งแต่ปี ๒๕๕๐
เป็นต้นมาเมื่อโทรศัพท์ไอโฟนรุ่นแรกวางตลาด ตามติดด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือจนกลายเป็น "สมาร์ทโฟน"ในยุคปัจจุบัน โทรศัพท์ฉลาดที่นับวันยิ่งจะแทรกตัวเข้ามาในวันเวลาของวิถีชีวิตคนเมือง
อย่างปฏิเสธได้ยาก รวมถึง ดล แดน และครอบครัวของผมด้วย
แต่ก็นับว่าเป็นความโชคดีของเด็กๆ กลุ่มครอบครัวควบกล้ำฯ ที่มีโอกาศได้เกิดก่อนยุคที่สมาร์ทโฟนและแทบเล็ตกำลังเฟื่องฟูเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คน
ยุคที่โลกเสมือนถูกจำลองภาพจากทุกหนแห่งบนโลกสีฟ้าใบนี้
ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยการเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ข้อมูลภาพชนิดต่างๆจึงพรั่งพรูออกมาจากทุกหนแห่งที่เชื่อมต่อสู่ระบบเครือข่ายโลก โดยเฉพาะการพกพาติดตัวของกล้องโทรศัพท์เหล่านี้ จึงถูกใช้งานด้วยความสะดวกที่ง่ายและเร็วทำให้กลายเป็นเครื่องมือช่วยบันทึกข้อมูลในการเรียนรู้ของเด็กๆให้สะดวกขึ้น แต่อาจจะทำให้การเรียนรู้ของเด็กขาดมิติไป ถ้าหากจะเปรียบเทียบกับวันเวลาก่อนหน้านี้ ที่เด็กๆยังได้มีโอกาศเรียนรู้วิธีการบันทึกภาพด้วยกล้องถ่ายภาพซึ่งมีกระบวนการและรายละเอียดมากพอสำหรับการบันทึกปรากฏการณ์สำคัญจากห้องเรียนธรรมชาติ
 |
ถ่ายนกกับน้าเกรียงที่ บางปู |
 |
ถ่ายแมลงในลำห้วยที่ เกาะช้าง |
 |
ดลกับเพื่อนๆ บันทึกภาพสำรวจที่ อช.ปางสีดา |
 |
ถ่ายบันทึกสำรวจเห็ดที่ อช.ปางสีดา |
 |
เฝ้าถ่ายนกเงือกในบังไพรที่ อช.เขาใหญ่ |
 |
เจอเหยี่ยวรุ้งกับอากาหลิบและแดนที่ อช.เขาใหญ่ |
 |
บันทึกภาพท่ามกลางผีเสื้อที่ อช.แก่งกระจาน |
เครื่องมือเรียนรู้
การเรียนรู้ธรรมชาติในวัยเด็กนั้นอาศัยแรงบันดาลใจเป็นพลังขับเคลื่อน
ข้อมูลภาพเป็นส่วนหนึ่งที่ให้แรงบันดาลใจกับเด็กได้เสมอ และเมื่อโอกาศเปิดให้มีประสบการณ์ตรงเมื่อไหร่
การเข้าถึงความรู้เหล่านั้นจะเกิดขึ้น กระบวนการบันทึกภาพจะเป็นการต่อยอดและหล่อเลี้ยงให้เกิดแรงบันดาลใจใหม่เกิดขึ้นเสมอ ในการสำรวจธรรมชาติจึงมีการบันทึกภาพเป็นแรงจูงใจที่ท้าทายให้เด็กๆพยายามค้นหาบันทึกสิ่งใหม่ๆที่ไม่รู้จัก
การบันทึกภาพจึงมีประสิทธิภาพยิ่งเมื่อถูกใช้เป็นเครื่องมือเรียนรู้ในห้องเรียนธรรมชาติ
เมื่อภาพของสิ่งมีชีวิตมักถูกเชื่อมต่อกับความรู้ทางธรรมชาติวิทยาเสมอ เช่น การจำแนกชนิดหรือการสังเกตพฤติกรรม
วงจรชีวิตและรวมถึงการพบเจอสิ่งใหม่ๆ ด้วยการสืบค้นเรียนรู้ด้วยตัวเอง
อีกประสบการณ์สำคัญของพวกเขา
คือภาพถ่ายบันทึกเป็นหัวใจในการทำความรู้จักกับสรรพสิ่ง เพราะมีเสี้ยววินาฑีที่สำคัญจากการสำรวจสังเกตการณ์และรวมถึงการพบเจอโดยบังเอิญ
รอคอยอยู่ ความคาดหวังจากสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ คือสาระสำคัญที่ได้เรียนรู้จากปรากฏการณ์ธรรมชาติ
ภาพบันทึกของเสี้ยวเวลาเหล่านี้จึงมีความหมายสำคัญยิ่งต่อประสบการณ์ของพวกเขาในวัยเด็ก
โดยเฉพาะในการทำความรู้จักกับสรรพสิ่งในธรรมชาติที่เปิดโอกาสให้พบเจอในเสี้ยวเวลาอันน้อยนิด
หรือแม้กระทั่งชีวิตเล็กๆที่เรามักมองไม่เห็นความสำคัญ
ดลและแดนได้บันทึกภาพไว้มากมาย จากประสบการณ์ทุกหนแห่งที่เคลื่อนไปกับห้องเรียนธรรมชาติ
คงมิใช่เพียงแค่ถ่ายภาพสวยๆไว้ประดับความทรงจำ แต่เป็นมุมมองที่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการจับจังหวะความเข้าใจที่มีต่อโลกธรรมชาติ
ด้วยจินตนาการและประสบการณ์จริงในวัยเด็ก