ของแถมชิ้นสำคัญสำหรับเด็กๆที่จะได้รับจากห้องเรียนธรรมชาติ คือการรอคอย
การได้หยุด คิด ฟังและสังเกตุสรรพสิ่งรอบตัว เป็นศิลปะของทักษะชีวิต การเฝ้าศึกษาพฤติกรรมนกเงือกจึงถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่จะฝึกความอดทนในการรอคอย
โดยมีเป้าหมายแรงบันดาลใจจากนกเงือกตัวโต ต้นแบบนักปลูกป่าที่ทำหน้าที่กระจายเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ใหญ่หลายชนิดที่เป็นเสาหลักสำคัญต่อระบบนิเวศน์ของป่าที่สมบูรณ์
เด็กๆสามารถติดตามสังเกตการณ์ศึกษา พฤติกรรม วงจรชีวิต การจับคู่ การเลี้ยงลูกและการรวมฝูง
จากองค์ความรู้ที่มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือกได้รวบรวมเอาไว้ ซึ่งเราจะได้เห็นภาพรวมที่โยงใยความสำคัญของนกเงือกที่มีต่อระบบนิเวศน์ในธรรมชาติได้ด้วยประสบการณ์ตรง
ในบังไพร
ย้อนเวลากลับไปในวัยเด็กเล็กของดลและแดน ในตอนที่มีประสบการณ์การรอคอยอยู่น้อยนิด
จึงเป็นข้อกังวลสำหรับพ่อแม่หลังจากได้รับการชักชวนจาก คุณยายพิไลเพื่อไปดูนกเงือกกับทีมวิจัยนกเงือกที่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเฉพาะในพื้นที่จำกัดที่เราเรียกว่า "บังไพร" ซุ้มคล้ายเต็นท์ที่พรางตัวภายนอกให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมกลางป่าเขาใหญ่
หากต้องการจะเห็นพ่อนกเงือกป้อนอาหารที่โพรงรังบนต้นไม้ใหญ่ คงต้องใช้เวลาอยู่กับความเงียบนานนับชั่วโมงเพื่อรอคอยเฝ้าดู
เพราะนกเงือกเป็นนกที่ระวังตัวและฉลาดมาก ประสบการณ์ในบังไพรครั้งแรกกับลูกๆสองคน แม่หน่อยจึงเตรียมพร้อมอุปกรณ์เผื่อการรอคอยทั้ง
ขนม ขบเขี้ยว หนังสือเด็กและสมุดวาดรูป ซึ่งปรากฏว่านับตั้งแต่นาทีที่เรามุดเข้าไปอยู่ในบังไพรกับคุณยายพิไลและทีมวิจัยนกเงือก(อากาหลิบและอาอ็อด) เด็กสองคนต่างต้องส่งเสียงสื่อสารกันแบบเบาที่สุด
เผื่อการรับฟังเสียงภายนอกด้วย เด็กๆจะตั้งใจฟังเรื่องราวนกเงือกและรอคอยด้วยใจจดจ่อไปด้วย
บางช่วงเวลาที่เราต่างหยุดเงียบสนิท ตั้งใจเงี่ยหูฟังหวังว่าจะเป็นนกเงือกบินมาเกาะหน้าโพรงรัง
ทำให้ดลและแดนกลับพบว่ารอบบังไพรเต็มไปด้วยนกนานาชนิด ซึ่งคุณยายพิไลจะช่วยจำแนกชื่อจากเสียงร้องได้อย่างน่ามหัศจรรย์
การรอคอยในบังไพรจึงกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการฝึกหัดฟัง ตั้งแต่คนรอบข้าง สิ่งรอบตัว
รวมถึงภายในตัวเอง เป็นประสบการณ์ของช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะเนิ่นนานแต่ก็น่าตื่นเต้นสำหรับเด็กๆ
โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยที่เตรียมมามากนัก
คุณแม่แห่งนกเงือก
ศ.คร. พิไล พูลสวัสดิ์ ผู้ศึกษาวิจัยและก่อตั้ง มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือกซึ่งผูกพันกับงานอนุรักษ์นกเงือกมานานกว่ายี่สิบปี
เปรียบเหมือนแม่ที่คอยดูแลปกป้องนกเงือก ซึ่งในประเทศไทยมีอยู่ถึง ๑๓ ชนิด และสำหรับดลและแดนนั้นการได้ไปเรียนรู้ธรรมชาติกับคุณยายพิไลก็ยิ่งนับว่าเป็นโอกาศดีมากๆในชีวิต
การถ่ายทอดประสบการณ์ของคุณยายพิไล จึงถือเป็นรอยประทับที่สำคัญให้กับเด็กๆ "หลายๆครั้งที่ยายต้องรอคอยอยู่ในบังไพรทั้งวัน
โดยไม่เห็นนกเงือกซักตัวเลยก็มี" คุณยายเตือนใจเด็กๆก่อนที่จะพาลัดเลาะออกนอกเส้นทางศึกษาธรรมชาติเพื่อไปสู่จุดบังไพรที่ไม่ห่างจากโพรงรังต้นยางมากนัก
ระหว่างทางที่เราก้าวเดินไปคุณยายพิไล จะพาดลแดนให้รู้จักสังเกตุธรรมชาติซึ่งล้วนมีที่มาและความหมายให้เราได้ค้นหาเรียนรู้อย่างไม่รู้จบตั้งแต่
ลูกยาง เห็ด ไลเคน ดอกไม้ ไปจนถึงร่องรอยหมีบนต้นไม้ เรื่องเล่าจากคุณยายพิไลกับประสบการณ์ที่พบเห็นในวันนั้นนับว่ามีคุณค่ายิ่ง
ถึงแม้ว่าการไปเฝ้าดูนกเงือกในครั้งนี้จะสัมผัสได้เพียงแค่เสียงกระพือปีกบินวนเวียนอยู่พักเดียว "นกเงือกกรามช้างฉลาดมาก
มันคงจะเห็นเราตอนเดินเข้าบังไพรพอดี มันจะรอจนแน่ใจว่าเราได้ออกไปจากบังไพรแล้ว ถึงจะบินเข้าป้อนอาหารหน้าโพรงรัง" อาอ๊อดหนึ่งในทีมวิจัยบอกเล่าให้เด็กๆฟัง
ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังมากในการที่จะไปรบกวนใกล้บริเวณโพรงรังมากเกินไป
ความสุขระหว่างทาง
เมื่อคุณยายพิไลพาไปดูรอยอุ้งเล็บของหมีที่ต้นไม้ ชี้ให้ดูระดับความสูงของรอยตะปบที่วัดจากพื้นดิน
แดนตะลึงงันอยู่สักพักใหญ่ คาดคะเนว่าตัวมันจะขนาดไหนและมันน่าจะเป็นหมีชนิดใด เรื่องราวของหมีจึงถูกเล่าขานไปด้วยตลอดทาง
ขณะที่ดลมักชอบสังเกตุร่องรอยถูกกัดกินของใบไม้ที่แตกต่างกันระหว่างหนอนและแมลง เดินสำรวจกันไปว่าจะเป็นสิ่งไหนอาศัยอยู่
เมื่อการเริ่มต้นค้นพบระหว่างทางมีการรอคอยให้เราได้ทักทายกับความสุขไปด้วย การเฝ้าดูนกเงือกกับคุณยายพิไลในครั้งนั้นจึงเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆให้อยากทำความรู้จักกับสรรพสิ่งและธรรมชาติรอบตัวได้มากขึ้น
โดยเฉพาะนกเงือกอีกตั้งสิบสามชนิดในเมืองไทย อาทิเช่น นกชนหินเป็นนกเงือกหน้าตาประหลาด
มีโหนกตันที่แตกต่างไปจากนกเงือกชนิดอื่นๆ เวลาทะเลาะกันจะบินเอาโหนกชนกันมีเสียงดังซึ่งดลและแดนยังไม่เคยเห็นจนถึงทุกวันนี้ก็ตาม
แต่สำหรับนกกกนกเงือกที่มีตัวโตที่สุดถ้าเปรียบกับนกแก๊กนกเงือกที่เล็กที่สุด ก็จะเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งในการเฝ้าดูศึกษานกเงือกในเวลาต่อมา
รอยประทับยามเช้าตอนฟ้าสาง ที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา ระหว่างที่ดลและน้าเกรียงรอบันทึกภาพหน้าโพรงรังนกกก
ตอนที่นกกกบินมาเกาะบนคาคบพร้อมนกแก็กที่เกาะอยู่อีกกิ่ง ทั้งคู่รอจังหวะกันอยู่นานมากจนกระทั่งนกแก็กบินจากไป
นกกกถึงจะบินเข้าป้อนหน้าโพรงรัง ถือเป็นความงดงามของการรอคอยที่ต่างต้องอาศัยจังหวะจะโคนที่สอดคล้องกันตามธรรมชาติ